LAW One PAGE ลอว์วันเพจ
banner
lawonepage.bsky.social
LAW One PAGE ลอว์วันเพจ
@lawonepage.bsky.social
7 followers 15 following 440 posts
พลังงานบวกเชิงกฎหมาย💖 ไหน?? ลองแยกพิจารณาดูซิ 🔍 ทำกฎหมายให้เข้าใจง่ายๆหน่อยยย IG : LAW One Page ลอว์วันเพจ Threads : LAW One Page ลอว์วันเพจ FB : LAW One PAGE ลอว์วันเพจ Twitter / X : LAW One PAGE ลอว์วันเพจ @lawonepage
Posts Media Videos Starter Packs
ผู้ร้องซึ่งเป็นทายาทมีอำนาจยื่นคำร้องขอจัดการมรดกของผู้ตายต่อศาลชั้นต้นอันเป็นศาลที่ผู้ตายเจ้ามรดกมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลขณะถึงแก่ความตายได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4 จัตวา วรรคหนึ่ง [9/9]
การดำเนินการตามคำตัดสินของโนตารีในเรื่องการสืบทอดมรดกและเกี่ยวข้องกับเครือญาติ ข้อ21 กฎทั่วไปข้อ1 ต้องบังคับตามกฎหมายของรัฐที่ผู้ตายมีถิ่นที่อยู่ในเวลาเสียชีวิต กรณีจึงมีเหตุขัดข้อง [8/9]
ผู้ร้องเคยยื่นขอจัดการมรดกต่อโนตารีพับบลิคฝรั่งเศสแล้วได้รับแจ้งว่าไม่สามารถดำเนินการได้เพราะผู้ตายมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งตามข้อบังคับ EU เลขที่ 650/2012 ของสภายุโรปและคณะมนตรี ลงวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 2012 เรื่องเขตอำนาจศาล การยอมรับ การบังคับใช้ และ [7/9]
ซึ่งศาลฎีกาเห็นว่าเพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งประเด็นเป็นไปโดยเที่ยงธรรม และอนุญาตให้ยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติมได้ ถือได้ว่าบ้านเลขที่ดังกล่าวเป็นถิ่นอันผู้ตายมีสถานที่อยู่เป็นแหล่งสำคัญและเป็นภูมิลำเนาของผู้ตาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 37 [6/9]
ทั้งเอกสารฝ่ายบริการบำนาญ กรมการจัดหางานและเงินบำนาญ สหราชอาณาจักร และเอกสารจากศูนย์การเงินสาธารณะ แผนกบริการภาษีบุคคลในกูร์เบอวัว สาธารณรัฐฝรั่งเศส ที่เกี่ยวกับผู้ตายจัดส่งมายังบ้านเลขที่ของผู้ตายที่ได้แจ้งความประสงค์ไว้ [5/9]
🖤คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 114/2568 ผู้ตายซึ่งถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2562 ใช้วีซ่าเกษียณอายุได้รับอนุญาตให้พำนักในประเทศไทยโดยวีซ่า และได้รับอนุญาตโดยต่อวีซ่าให้พำนักในประเทศไทยถึงวันที่ 13 มีนาคม 2563 [4/9]
ป.พ.พ. มาตรา 37 วางหลักว่า ภูมิลำเนาของบุคคลธรรมดา ได้แก่ถิ่นอันบุคคลนั้นมีสถานที่อยู่เป็นแหล่งสำคัญ [3/9]
🖤ตัวบท : ป.วิ.พ. มาตรา 4 จัตวา วรรคหนึ่ง วางหลักว่า คำร้องขอแต่งตั้งผู้จัดการมรดก ให้เสนอต่อศาลที่เจ้ามรดกมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลในขณะถึงแก่ความตาย [2/9]
วันนี้มีฎีกาปี 68 น่าสนใจมาฝากกันค่า เป็นคดีเกี่ยวกับเขตอำนาจศาลในการยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก และภูมิลำเนาของเจ้ามรดก ซึ่งไม่ค่อยได้เห็นเท่าไหร่นัก เราไปอ่านพร้อมกันเลยค่า [1/9]
มิใช่กระทำต่อเนื่องเชื่อมโยงในคราวเดียวกัน และเป็นความผิดซึ่งสามารถแยกเจตนาและการกระทำต่างจากการกระทำความผิดทั้งสามฐานดังกล่าวได้ จึงเป็นการกระทำความผิดอีกกรรมหนึ่ง [6/6]
ต่อมาจำเลยทั้งสามกระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และฐานร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปลอมหรือเป็นเท็จ แต่เป็นการกระทำความผิดที่เกิดขึ้นในภายหลังที่ความผิดทั้งสามฐานดังกล่าวสำเร็จไปแล้ว [5/6]
ย่อมเป็นความผิดสำเร็จแล้วตั้งแต่มีการสมคบวางแผนเพื่อกระทำการอันเป็นความผิด แม้ยังมิได้มีการกระทำการตามที่สมคบกันก็ตาม จึงเป็นการกระทำความผิดกรรมหนึ่ง [4/6]
🩵คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2614/2568 จำเลยทั้งสามกระทำความผิดฐานร่วมกันกระทำการเป็นอั้งยี่ ฐานร่วมกันเป็นซ่องโจร และฐานร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ [3/6]
🩵ตัวบท : มาตรา 90 วางหลักว่า
เมื่อการกระทำใดอันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่ผู้กระทำความผิด [2/6]
🩵ความรักที่จางหาย ก็แค่กาแฟแก้วเดิมที่เจือจาง แต่ยังมีเมล็ดใหม่ให้ชง แก้วใหม่ให้เริ่ม และรสใหม่ที่ดีกว่ารออยู่เสมอ☕
🌟ฎีกาเรื่องนี้เป็นการวินิจฉัยถึงการกระทำของแก๊งคอลเซ็นเตอร์🌟 [1/6]
จึงไม่อาจนำ ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคท้าย มาใช้บังคับเพื่อให้ศาลลงโทษจำเลยในความผิดฐานลักทรัพย์โดยมีอาวุธดังที่โจทก์ฎีกาได้ [11/11]
ดังนั้น ข้อเท็จจริงอันเป็นการกระทำของจำเลยที่โจทก์อ้างว่าเป็นความผิด ก็มีเพียงเท่าที่โจทก์กล่าวอ้างในฟ้อง หาได้มีข้อเท็จจริงตามที่พิจารณาได้ความแต่อย่างใดไม่ [10/11]
ศาลอ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังแล้วจำเลยให้การรับสารภาพข้อหาตามฟ้องโจทก์ตามบันทึกคำให้การที่สักขีพยานบันทึกไว้ โจทก์และจำเลยแถลงว่าไม่ติดใจสืบพยาน คดีเสร็จการพิจารณา [9/11]
อีกทั้งแม้ความผิดฐานชิงทรัพย์เป็นความผิดที่รวมการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์อยู่ด้วยก็ตาม แต่เมื่อปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นว่า [8/11]
ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ [7/11]
โจทก์แถลงไม่ติดใจสืบพยาน โจทก์จึงไม่มีพยานหลักฐานที่จะให้ศาลฟังลงโทษจำเลยในความผิดฐานชิงทรัพย์โดยมีอาวุธตามฟ้องได้ [6/11]
🌼คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1546/2568
ความผิดตาม ป.อ. มาตรา 339 แม้จำเลยให้การรับสารภาพและจำเลยไม่สืบพยาน ก็ไม่อาจพิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดฐานนี้ได้ ศาลต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 176 แต่กลับปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นว่า [5/11]
มาตรา 192 วรรคท้าย วางหลักว่า ถ้าความผิดตามที่ฟ้องนั้นรวมการกระทำหลายอย่าง แต่ละอย่างอาจเป็นความผิดได้อยู่ในตัวเอง ศาลจะลงโทษจำเลยในการกระทำผิดอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่พิจารณาได้ความก็ได้ [4/11]