เสียงถอนหายใจแผ่วกลืนกับสายลมจบบทพูดยืดยาว
และขึ้นประโยคใหม่ด้วยความใจเย็น รอยยิ้มอ่อน ดวงตาที่จับจ้องอย่างผิวเผิน แต่แฝงความล่วงเกินอยู่ในที
ไม่มาก
อาจทำไปด้วยความไม่รู้ตัว ขอท่านอย่าใส่ใจ
คราวนี้เป็นคำถาม
“ชิโรกาเนะซัง ..คุณเคยรู้สึกเหงาบ้างไหมครับ”
เสียงถอนหายใจแผ่วกลืนกับสายลมจบบทพูดยืดยาว
และขึ้นประโยคใหม่ด้วยความใจเย็น รอยยิ้มอ่อน ดวงตาที่จับจ้องอย่างผิวเผิน แต่แฝงความล่วงเกินอยู่ในที
ไม่มาก
อาจทำไปด้วยความไม่รู้ตัว ขอท่านอย่าใส่ใจ
คราวนี้เป็นคำถาม
“ชิโรกาเนะซัง ..คุณเคยรู้สึกเหงาบ้างไหมครับ”
“รบกวนอะไรกันครับ ก็ผมเป็นคนเดินมาทักคุณก่อน..”
ก่อนมันจะแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่กว้างกว่าเดิม ไม่แม้แต่จะเสียเวลาเก็บสีหน้าด้วยซ้ำ
น้ำเสียงตัดพ้อเริ่มขึ้น
“จะบอกว่าผมมารบกวนคุณใช่ไหมครับ จะไล่กันแล้วสิ”
ทวีคูณตามความเพ้อเจ้อในแต่ละประโยค
“รบกวนอะไรกันครับ ก็ผมเป็นคนเดินมาทักคุณก่อน..”
ก่อนมันจะแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่กว้างกว่าเดิม ไม่แม้แต่จะเสียเวลาเก็บสีหน้าด้วยซ้ำ
น้ำเสียงตัดพ้อเริ่มขึ้น
“จะบอกว่าผมมารบกวนคุณใช่ไหมครับ จะไล่กันแล้วสิ”
ทวีคูณตามความเพ้อเจ้อในแต่ละประโยค
..บางทีชิโรกาเนะก็เหมือนพวกตัวละครลึกลับในโทรทัศน์ราวกับจับวาง
ดวงตามองใบทังซาคุที่เมื่อครู่อยู่ในมือเจ้าของมัน ตอนนี้ย้ายไปอยู่บนกิ่งไผ่ ไหวสะบัดเล็กน้อยตามสายลม
หลุบลงมองพื้นชั่วขณะ
และมีจุดหมายสุดท้ายอยู่ที่เจ้าของทังซาคุใบนั้น
..บางทีชิโรกาเนะก็เหมือนพวกตัวละครลึกลับในโทรทัศน์ราวกับจับวาง
ดวงตามองใบทังซาคุที่เมื่อครู่อยู่ในมือเจ้าของมัน ตอนนี้ย้ายไปอยู่บนกิ่งไผ่ ไหวสะบัดเล็กน้อยตามสายลม
หลุบลงมองพื้นชั่วขณะ
และมีจุดหมายสุดท้ายอยู่ที่เจ้าของทังซาคุใบนั้น
“ขอให้ค่ำคืนนี้เป็นคืนที่ดีสำหรับชิโรกาเนะซังเช่นกันครับ”
“ทานาบาตะมันก็ต้องเฉลิมฉลองท่ามกลางแสงไฟประดับของเทศกาลสิเนอะ”
“ขอให้ค่ำคืนนี้เป็นคืนที่ดีสำหรับชิโรกาเนะซังเช่นกันครับ”
“ทานาบาตะมันก็ต้องเฉลิมฉลองท่ามกลางแสงไฟประดับของเทศกาลสิเนอะ”
“ถ้าเป็นแบบนั้น เขียนอะไรสักหน่อยก็ดีนะครับ ใช่ว่ามันจะสมหวังเสียเมื่อไหร่”
เหมือนตั้งใจให้หายไปกับสายลม
“หรือถ้าคุณกลัวมันจะสมหวังก็ไม่เป็นไร แค่มีพรให้ขอ ต่อให้เก็บไว้กับตัวก็เป็นเรื่องที่ดีมากแล้วครับ”
ไม่หวังให้ผู้ได้ฟังคิดตาม
ยังคงสีหน้ายิ้มแย้ม น้ำเสียงอ่อนหวาน ราวกับบทสนทนาเรื่อยเปื่อยไร้แก่นสาร
“ถ้าเป็นแบบนั้น เขียนอะไรสักหน่อยก็ดีนะครับ ใช่ว่ามันจะสมหวังเสียเมื่อไหร่”
เหมือนตั้งใจให้หายไปกับสายลม
“หรือถ้าคุณกลัวมันจะสมหวังก็ไม่เป็นไร แค่มีพรให้ขอ ต่อให้เก็บไว้กับตัวก็เป็นเรื่องที่ดีมากแล้วครับ”
ไม่หวังให้ผู้ได้ฟังคิดตาม
ยังคงสีหน้ายิ้มแย้ม น้ำเสียงอ่อนหวาน ราวกับบทสนทนาเรื่อยเปื่อยไร้แก่นสาร
คิดตามแล้วพยักหน้าเห็นด้วย ไม่ลืมที่จะพูดย้ำอีกครั้งให้คำอวยพรส่งถึงเจ้าตัว
“แต่คุณจะว่าแบบนั้นไม่ได้หรอก ผมว่าคนที่ไม่เขียนอะไรเลยก็แปลกพอ ๆ กัน”
ดวงตาก้มหลุบมองฝ่ามือตัวเอง ก่อนจะไล่สายตาไปยังใบทันซาคุเปรอะเลือด พอเห็นว่ามันยังไม่ได้เขียนอะไรลงไปก็เอ่ยขึ้น
คิดตามแล้วพยักหน้าเห็นด้วย ไม่ลืมที่จะพูดย้ำอีกครั้งให้คำอวยพรส่งถึงเจ้าตัว
“แต่คุณจะว่าแบบนั้นไม่ได้หรอก ผมว่าคนที่ไม่เขียนอะไรเลยก็แปลกพอ ๆ กัน”
ดวงตาก้มหลุบมองฝ่ามือตัวเอง ก่อนจะไล่สายตาไปยังใบทันซาคุเปรอะเลือด พอเห็นว่ามันยังไม่ได้เขียนอะไรลงไปก็เอ่ยขึ้น