#นิด้าโพล
กาสิโนจุดแตกหัก? 🎲 นิด้าโพลเผยผลสำรวจล่าสุด ชี้ประชาชนส่วนใหญ่กว่า 35% หนุน 'ไชยชนก ชิดชอบ' เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ที่ประกาศค้านหัวชนฝา! 🔥 สะท้อนความเห็นที่หลากหลายและอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ในรัฐบาลเพื่อไทย-ภูมิใจไทยอย่างเลี่ยงไม่ได้? ติดตามรายละเอียดผลสำรวจเต็มได้ที่นี่ #กาสิโน #การเมืองไทย

อ่านต่อ https://th.xee4.com?p=4953
April 27, 2025 at 3:18 AM Everybody can reply
การสำรวจความนิยมนักการเมืองในไตรมาส 4 ปี 2567 จากนิด้าโพล แสดงให้เห็นว่า "เท้ง ณัฐพงษ์" ผู้นำฝ่ายค้านจากพรรคประชาชนมีคะแนนนิยมแซงหน้า "แพทองธาร" จากพรรคเพื่อไทย ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งเป็นครั้งแรก พรรคประชาชนได้คะแนนนิยม 37.30% ส่วนพรรคเพื่อไทยได้ 27.70%
January 12, 2025 at 7:58 AM Everybody can reply
สารภาพว่าเคยคิดเหมือนกัน เพราะถ้ามีนิด้าโพลได้ การจะมีทนายนิด้าก็อาจไม่แปลก ^^""
January 20, 2025 at 5:09 AM Everybody can reply
เพื่อนในกลุ่มกู เป็นประชาธิปไตย กว่าในสภาอีก 55555555 เอะอะโพล เป็นนิด้าหรือสวนดุสิตเลยมึง
March 25, 2025 at 9:28 AM Everybody can reply
ผลสำรวจ 'นิด้าโพล' ระบุคนยังมีความอดทนต่อสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา
ผลสำรวจ 'นิด้าโพล' ระบุคนยังมีความอดทนต่อสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา
ผลสำรวจ 'นิด้าโพล' ระบุคนยังมีความอดทนต่อสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา auser15 Sun, 2025-10-19 - 10:17 'นิด้าโพล' สำรวจ 1,310 คน ต่อสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ส่วนใหญ่ 40.53% ระบุว่ายังมีความอดทนอยู่พอประมาณ - พอใจบทบาทของ 'กองทัพ' มากที่สุด 'รัฐบาล' น้อยที่สุด 19 ตุลาคม 2568 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “คนไทย ยังอดทนอยู่หรือเปล่า?” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 14-16 ตุลาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความพอใจและความกังวลของประชาชนจากสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 0.05 ที่ระดับความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0 จากการสำรวจเมื่อถามถึงความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่าง ๆ จากสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา พบว่า 1. กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 53.67 ระบุว่า พอใจมาก รองลงมา ร้อยละ 34.20 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 9.54 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 2.44 ระบุว่า ไม่พอใจเลย และร้อยละ 0.15 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ 2. กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 34.66 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 31.83 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 16.95 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 14.43 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.13 ระบุว่า ไม่ตอบ/ ไม่สนใจ 3. รัฐบาลไทย ตัวอย่าง ร้อยละ 38.32 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 26.03 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 25.80 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 9.62 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ เมื่อถามถึงความอดทนของประชาชนต่อสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ในขณะนี้ โดยภาพรวมของประชาชนทั้งประเทศ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 40.53 ระบุว่า ยังมีความอดทนอยู่พอประมาณ รองลงมา ร้อยละ 24.43 ระบุว่า หมดความอดทนแล้ว ร้อยละ 19.69 ระบุว่า เริ่มไม่ค่อยมีความอดทนแล้ว ร้อยละ 14.74 ระบุว่ายังมีความอดทนสูงอยู่ และร้อยละ 0.61 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ สำหรับภาพรวมของประชาชนในจังหวัดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา (210 หน่วยตัวอย่าง) พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 38.57 ระบุว่า ยังมีความอดทนอยู่พอประมาณ รองลงมา ร้อยละ 24.29 ระบุว่า หมดความอดทนแล้ว ร้อยละ 22.38 ระบุว่า เริ่มไม่ค่อยมีความอดทนแล้ว ร้อยละ 14.28 ระบุว่า ยังมีความอดทนสูงอยู่ และร้อยละ 0.48 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ เมื่อถามถึงเรื่องที่ประชาชนมีความกังวลจากสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ในขณะนี้ โดยภาพรวมของประชาชนทั้งประเทศ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 44.05 ระบุว่า สถานการณ์ความขัดแย้งจะยืดเยื้อยาวนานไม่จบรองลงมา ร้อยละ 41.76 ระบุว่า สภาพความเป็นอยู่ของประชาชนตามแนวชายแดน ร้อยละ 31.15 ระบุว่า สถาพความเป็นอยู่เจ้าหน้าที่รัฐ อาสาสมัคร ทหาร ตำรวจ ตามแนวชายแดน ร้อยละ 21.15 ระบุว่า การรบกันอีกระหว่างไทย-กัมพูชา ร้อยละ 18.32 ระบุว่า ไม่กังวลอะไรเลย ร้อยละ 18.24 ระบุว่า ไทยจะเสียดินแดน ร้อยละ 14.50 ระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจชายแดน จากการปิดด่านระยะยาว ร้อยละ 12.06 ระบุว่า ประเทศมหาอำนาจจะแทรกแซง ร้อยละ 8.55 ระบุว่า การพลาดท่าให้กัมพูชาในเวทีระหว่างประเทศ ร้อยละ 7.79 ระบุว่า รัฐบาลจะไม่เปิดไฟเขียวอย่างเต็มที่ให้กองทัพแก้ไขปัญหา ร้อยละ 6.79 ระบุว่า รัฐบาลจะตัดสินใจเปิดด่าน ทั้ง ๆ ที่สถานการณ์ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ ร้อยละ 5.80 ระบุว่า ความเคลื่อนไหวของนักสิทธิมนุษยชน นักวิชาการ บางคนจะสร้างความได้เปรียบให้กัมพูชา และร้อยละ 0.91 ระบุว่า มวลชนกลุ่มต่าง ๆ จะขวางการแก้ไขปัญหาของภาครัฐ สำหรับภาพรวมของประชาชนในจังหวัดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา (210 หน่วยตัวอย่าง) พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 46.19 ระบุว่า สถานการณ์ความขัดแย้งจะยืดเยื้อยาวนานไม่จบ รองลงมา ร้อยละ 44.76 ระบุว่า สภาพความเป็นอยู่ของประชาชนตามแนวชายแดน ร้อยละ 33.33 ระบุว่า สภาพความเป็นอยู่เจ้าหน้าที่รัฐ อาสาสมัคร ทหาร ตำรวจ ตามแนวชายแดน ร้อยละ 25.71 ระบุว่า การรบกันอีกระหว่างไทย-กัมพูชา ร้อยละ 16.67 ระบุว่า ไทยจะเสียดินแดน ร้อยละ 14.76 ระบุว่า ไม่กังวลอะไรเลย ร้อยละ 13.33 ระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจชายแดน จากการปิดด่านระยะยาว ร้อยละ 9.52 ระบุว่า การพลาดท่าให้กัมพูชาในเวทีระหว่างประเทศ ร้อยละ 8.10 ระบุว่า ประเทศมหาอำนาจจะแทรกแซง ร้อยละ 4.29 ระบุว่า รัฐบาลจะไม่เปิดไฟเขียวอย่างเต็มที่ให้กองทัพแก้ไขปัญหา และรัฐบาลจะตัดสินใจเปิดด่าน ทั้ง ๆ ที่สถานการณ์ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ ในสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 3.33 ระบุว่า ความเคลื่อนไหวของนักสิทธิมนุษยชน นักวิชาการ บางคนจะสร้างความได้เปรียบให้กัมพูชา และร้อยละ 1.43 ระบุว่า มวลชนกลุ่มต่าง ๆ จะขวางการแก้ไขปัญหาของภาครัฐ ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อแนวทางในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ความขัดแย้ง ไทย-กัมพูชา โดยภาพรวมของประชาชนทั้งประเทศ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 35.19 ระบุว่า กดดันทางเศรษฐกิจ เช่น การปิดด่านต่อไปอย่างจริงจัง งดการนำเข้าส่งออกในทุกกรณี รองลงมา ร้อยละ 33.97 ระบุว่า ทำอย่างไรก็ได้ แต่ต้องไม่เสียดินแดนและไม่เสียเปรียบให้กัมพูชา ร้อยละ 24.81 ระบุว่า เปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายอย่างจริงจัง ร้อยละ 22.06 ระบุว่า รัฐบาลต้องเปิดไฟเขียวอย่างเต็มที่ให้กองทัพแก้ไขปัญหา ร้อยละ 21.68 ระบุว่า รัฐบาลต้องเยียวยา ดูแล ประชาชน ภาคธุรกิจ ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ ร้อยละ 20.99 ระบุว่า รบจนกว่าจะได้ชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จหรือได้เปรียบกัมพูชา ร้อยละ 11.22 ระบุว่า ป้องกันอย่าให้ประเทศมหาอำนาจเข้าแทรกแซง ร้อยละ 9.92 ระบุว่า กดดัน ฟ้องร้องและประณามกัมพูชาผ่านกลไกระหว่างประเทศ และทำอย่างไรก็ได้ แต่ขออย่าให้มีการสู้รบกัน ในสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 6.41 ระบุว่า ให้มีประเทศที่สามเป็นตัวกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ร้อยละ 2.37 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ร้อยละ 2.21 ระบุว่า แทรกแซงการเมืองภายในประเทศกัมพูชาเพื่อล้มอำนาจ ฮุน เซน และรัฐบาล ฮุน มาเนต ร้อยละ 1.37 ระบุว่า ใช้กลไกศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ตามข้อเรียกร้องของกัมพูชา และร้อยละ 1.07 ระบุว่า เปิดด่านทั้งหมดเพื่อให้เศรษฐกิจชายแดนเข้าสู่ภาวะปกติ * ข่าว * การเมือง * กรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา * โพล * นิด้าโพล
dlvr.it
October 19, 2025 at 3:21 AM Everybody can reply
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ยอมรับผลสำรวจ นิด้าโพล ที่สะท้อนคะแนนนิยมตนเองลดลง พร้อมขอบคุณประชาชนที่แสดงความเห็นผ่านการสำรวจ และเตรียมเปิดตัวแคนดิเดตนายฯในช่วงปลายเดือน ม.ค.69
#themainstreamth #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #นิด้าโพล #พรรคประชาชน
themainstream.news/politics/15655
ณัฐพงษ์รับผลโพลคะแนนนิยมลดลง ขอบคุณเสียงสะท้อนจากประชาชน พร้อมเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ปลาย ม.ค. 69
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน รับผลโพลคะแนนนิยมลดลง พร้อมนำข้อเสนอแนะมาปรับปรุงการทำงาน ยืนยันเตรียมเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีช่วงปลาย ม.ค. 2569 หากมีการยุบสภา
themainstream.news
September 29, 2025 at 6:44 AM Everybody can reply
📢 ผลสำรวจชัดเจน! 57% ผู้สูงอายุไทยอยากเกษียณอายุ 65 ปี

🔎 เหตุผลหลัก: สุขภาพดี-ต้องการรายได้

🏥 75% เรียกร้องรัฐพัฒนาระบบประกันสุขภาพ

#ผู้สูงอายุ #วัยเกษียณ #นิด้าโพล

อ่านต่อ https://th.xee4.com?p=2112
April 13, 2025 at 5:50 AM Everybody can reply
นิด้าโพลเผยผลสำรวจคะแนนนิยมการเมืองไตรมาส 2/68 'ณัฐพงษ์-พรรคประชาชน' คะแนนนำ
นิด้าโพลเผยผลสำรวจคะแนนนิยมการเมืองไตรมาส 2/68 'ณัฐพงษ์-พรรคประชาชน' คะแนนนำ
นิด้าโพลเผยผลสำรวจคะแนนนิยมการเมืองไตรมาส 2/68 'ณัฐพงษ์-พรรคประชาชน' คะแนนนำ auser15 Sun, 2025-06-29 - 15:37 นิด้าโพลเผยผลสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 2-2568 (สำรวจ 2,500 คน ช่วง19-25 มิ.ย.) เมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ อันดับ 1 'ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ' 31.48% พรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ อันดับ 1 พรรคประชาชน 46.08% 29 มิถุนายน 2568 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 2-2568” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 19-25 มิถุนายน 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 2,500 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับคะแนนนิยมทางการเมือง การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 0.05 ที่ระดับความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0 จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 31.48 ระบุว่าเป็น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (พรรคประชาชน) เพราะ เป็นคนรุ่นใหม่ที่กล้าแสดงออก มีแนวคิดที่ชัดเจนและทันสมัย อีกทั้งยังแสดงจุดยืนทางการเมืองอย่างตรงไปตรงมา อันดับ 2 ร้อยละ 19.88 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 3 ร้อยละ 12.72 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะ เป็นบุคคลที่พูดจริงทำจริง ตรงไปตรงมา มีความซื่อสัตย์สุจริต ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบ อันดับ 4 ร้อยละ 9.64 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) เพราะ มีความกล้าตัดสินใจ และมีประสบการณ์ในการบริหารประเทศ อันดับ 5 ร้อยละ 9.20 ระบุว่าเป็น นางสาวแพทองธาร (อุ๊งอิ๊ง) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) เพราะ มีความตั้งใจในการทำงาน แม้จะมีข้อจำกัดด้านประสบการณ์ และต้องการเปิดโอกาสให้ได้แสดงศักยภาพในการบริหารประเทศ อันดับ 6 ร้อยละ 6.48 ระบุว่าเป็น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ) เพราะเป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือ มีความเด็ดขาดในการตัดสินใจ และมีประสบการณ์ทางด้านกฎหมาย อันดับ 7 ร้อยละ 6.12 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะ เป็นบุคคลที่มีจุดยืนชัดเจน มีประสบการณ์จากการทำงานในรัฐบาลหลายชุด และทำงานอย่างตรงไปตรงมา อันดับ 8 ร้อยละ 1.48 ระบุว่าเป็น พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ) เพราะ เป็นบุคคลที่มีความเด็ดขาด มีความน่าเชื่อถือ สามารถบริหารจัดการปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร้อยละ 2.92 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน (พรรคประชาธิปัตย์) นายวราวุธ ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา) พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง (พรรคประชาชาติ) นายเทวัญ ลิปตพัลลภ (พรรคชาติพัฒนา) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ) นายชัยเกษม นิติสิริ (พรรคเพื่อไทย) นายชวน หลีกภัย (พรรคประชาธิปัตย์)  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (พรรคประชาธิปัตย์)  พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ (พรรคกล้าธรรม) และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) และร้อยละ 0.08 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 46.08 ระบุว่าเป็น พรรคประชาชน อันดับ 2 ร้อยละ 13.24 ระบุว่าเป็น พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 3 ร้อยละ 11.52 ระบุว่าเป็นพรรคเพื่อไทย อันดับ 4 ร้อยละ 9.76 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย อันดับ 5 ร้อยละ 7.72 ระบุว่า ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 6 ร้อยละ 4.20 ระบุว่าเป็น พรรคไทยสร้างไทย อับดับ 7 ร้อยละ 2.88 ระบุว่าเป็นพรรคพลังประชารัฐ อับดับ 8 ร้อยละ 2.68 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 1.76 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคประชาชาติ พรรคชาติพัฒนา พรรคกล้าธรรม พรรคเสรีรวมไทย พรรคไทยภักดี และพรรคเพื่อไทยรวมพลัง และร้อยละ 0.16 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ * ข่าว * การเมือง * นิด้าโพล * โพล
dlvr.it
June 29, 2025 at 8:45 AM Everybody can reply
"นิด้าโพล" เผยผลสำรวจข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ เบื่อที่สุดในระบบราชการไทย คือขั้นตอนปฏิบัติยุ่งยาก ระบบอุปถัมภ์ และเงินเดือนน้อย แต่ไม่อยากลาออก-ย้าย
อ่านเพิ่มเติม
www.nationtv.tv/news/social/...
March 31, 2024 at 1:22 AM Everybody can reply
🗣️ สมศักดิ์ เทพสุทิน ตอบชัดทุกประเด็นร้อน!
📍 โพลชี้คนอยากปรับ ครม. - เจ้าตัวยันเป็นอำนาจนายกฯ เท่านั้น
📍 ข่าวลือเพื่อไทยแลกกระทรวง มท. กับ สธ. - นายสมศักดิ์ ตอบสั้นๆ ว่า...?!

#สมศักดิ์เทพสุทิน #ปรับครม #เพื่อไทย #การเมืองไทย #นิด้าโพล #ข่าวการเมือง

อ่านต่อ https://th.xee4.com?p=3924
April 21, 2025 at 7:09 PM Everybody can reply
🔴 ด่วน! สมคิด เชื้อคง รองเลขาฯ นายกฯ รับ นิด้าโพลชี้ประชาชนอยากปรับ 'รมว.พาณิชย์' ตรงกับเสียงสะท้อน สส.เพื่อไทย เหตุห่วงราคาพืชผลตกต่ำ!

เผย จังหวะเหมาะ 'ปรับ ครม.' อาจเป็นหลังผ่านงบฯ ปี 69 ประมาณ มิ.ย. นี้! ติดตามความเคลื่อนไหวการเมืองได้ที่นี่...

อ่านต่อ https://th.xee4.com?p=3855
April 21, 2025 at 10:30 PM Everybody can reply
นิด้าโพลชี้เลือกตั้งครั้งหน้าบัตรลงคะแนน 4 ใบ 6 คำถาม คนมองทำประชาชนสับสนมาก
นิด้าโพลชี้เลือกตั้งครั้งหน้าบัตรลงคะแนน 4 ใบ 6 คำถาม คนมองทำประชาชนสับสนมาก
นิด้าโพลชี้เลือกตั้งครั้งหน้าบัตรลงคะแนน 4 ใบ 6 คำถาม คนมองทำประชาชนสับสนมาก auser15 Sun, 2025-10-12 - 12:31 นิด้าโพลสำรวจ 1,310 คน ถามเรื่องความสับสนเกี่ยวกับบัตรลงคะแนน 4 ใบ รวม 6 คำถาม (บัตรเลือก สส. ระบบเขตเลือกตั้งหนึ่งใบ; บัตรเลือก สส. ระบบบัญชีรายชื่อหนึ่งใบ; บัตรลงคะแนนประชามติเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญหนึ่งใบ สองข้อ;  บัตรลงคะแนนประชามติเรื่องการยกเลิก MOU 43 และ MOU 44 หนึ่งใบ สองข้อ) ในการเลือกตั้งครั้งหน้าของประชาชนทั่วไป พบว่าส่วนใหญ่ 48.55% ระบุว่าสับสนมาก 12 ตุลาคม 2568 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “บัตรลงคะแนน 4 ใบ 6 คำถาม จะไหวไหม” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 7-9 ตุลาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความคิดเห็นของประชาชนต่อบัตรลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้า การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่าง โดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 0.05 ที่ระดับความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0 จากการสำรวจเมื่อถามความสับสนเกี่ยวกับบัตรลงคะแนน 4 ใบ รวม 6 คำถาม (บัตรเลือก สส. ระบบเขตเลือกตั้งหนึ่งใบ; บัตรเลือก สส. ระบบบัญชีรายชื่อหนึ่งใบ; บัตรลงคะแนนประชามติเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญหนึ่งใบ สองข้อ;  บัตรลงคะแนนประชามติเรื่องการยกเลิก MOU 43 และ MOU 44 หนึ่งใบ สองข้อ) ในการเลือกตั้งครั้งหน้าของประชาชนทั่วไป พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 48.55 ระบุว่า สับสนมาก รองลงมา ร้อยละ 30.61 ระบุว่า ค่อนข้างสับสน ร้อยละ 11.99 ระบุว่า ไม่สับสนเลย และร้อยละ 8.85 ระบุว่า ไม่ค่อยสับสน ด้านความสับสนเกี่ยวกับบัตรลงคะแนน 4 ใบ รวม 6 คำถาม ในการเลือกตั้งครั้งหน้าของตนเอง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 34.73 ระบุว่า ไม่สับสนเลย รองลงมา ร้อยละ 26.80 ระบุว่า สับสนมาก ร้อยละ 23.36 ระบุว่า ค่อนข้างสับสน และร้อยละ 15.11 ระบุว่า ไม่ค่อยสับสน สำหรับความเพียงพอของระยะเวลา 4 เดือน ภายใต้รัฐบาลนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ในการเตรียม ความพร้อมเลือกตั้งและสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงการยกเลิก MOU 43 และ MOU 44 พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 30.23 ระบุว่า ไม่เพียงพอเลย รองลงมา ร้อยละ 24.43 ระบุว่า เพียงพอแน่นอน ร้อยละ 22.14 ระบุว่า ค่อนข้างเพียงพอ ร้อยละ 20.53 ระบุว่า ไม่ค่อยเพียงพอ และร้อยละ 2.67 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ท้ายที่สุดเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อการจัดให้มีการเลือกตั้ง สส. การทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการทำประชามติยกเลิก MOU 43 และ MOU 44 ในวันเดียวกัน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 49.16 ระบุว่า เห็นด้วยที่จะมีการดำเนินการทั้งหมดในวันเดียวกัน รองลงมา ร้อยละ 26.11 ระบุว่า ควรแยกการดำเนินทั้งสามเรื่องเป็นคนละวันกัน ร้อยละ 12.60 ระบุว่า ควรแยกเฉพาะการลงคะแนนเลือกตั้ง สส. ออกไปอีกวัน ร้อยละ 5.42 ระบุว่า ควรแยกเฉพาะการทำประชามติเรื่องการยกเลิก MOU 43 และ MOU 44 ออกไปอีกวัน ร้อยละ 3.89 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ และร้อยละ 2.82 ระบุว่า ควรแยกเฉพาะการทำประชามติเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ออกไปอีกวัน   * ข่าว * การเมือง * นิด้าโพล * โพล * ประชามติ * การเลือกตั้ง
dlvr.it
October 12, 2025 at 5:36 AM Everybody can reply
นิด้าโพลชี้คนไว้วางใจกองทัพ 75.73% รัฐบาล 4.66% กรณีความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา
นิด้าโพลชี้คนไว้วางใจกองทัพ 75.73% รัฐบาล 4.66% กรณีความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา
นิด้าโพลชี้คนไว้วางใจกองทัพ 75.73% รัฐบาล 4.66% กรณีความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา auser15 Sun, 2025-08-10 - 11:58 นิด้าโพลสำรวจความเห็น 1,310 คน ต่อความไว้วางใจต่อภาคส่วนต่างๆ ว่าจะสามารถปกป้องผลประโยชน์ของชาติได้ จากกรณีความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่าส่วนใหญ่ไว้ใจกองทัพ 75.73% ไว้ใจรัฐบาล 4.66% 10 สิงหาคม 2568 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 0.05 ที่ระดับความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0 จากการสำรวจเมื่อถามถึงความไว้วางใจต่อภาคส่วนต่าง ๆ ว่าจะสามารถปกป้องผลประโยชน์ของชาติได้ จากกรณีความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่ากองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย รองลงมา ร้อยละ 33.28 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 19.23 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 4.89 ระบุว่า ไว้วางใจมาก และร้อยละ 0.84 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ รัฐบาลไทย ตัวอย่าง ร้อยละ 54.58 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย รองลงมา ร้อยละ 29.01 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 11.45 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 4.66 ระบุว่า ไว้วางใจมาก และร้อยละ 0.30 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ด้านความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.42 ระบุว่า พอใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.85 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 3.36 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 1.22 ระบุว่า ไม่พอใจเลย และร้อยละ 0.15 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 40.31 ระบุว่า ไม่พอใจเลย รองลงมา ร้อยละ 33.66 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 20.38 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 4.81 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 0.84 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ รัฐบาลไทย ตัวอย่าง ร้อยละ 54.43 ระบุว่า ไม่พอใจเลย รองลงมา ร้อยละ 27.40 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 13.75 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 4.27 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 0.15 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 41.98 ระบุว่า เปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายอย่างจริงจัง รองลงมา ร้อยละ 27.63 ระบุว่า กดดันทางเศรษฐกิจ เช่น การปิดด่านต่อไปอย่างจริงจัง งดการนำเข้าส่งออกในทุกกรณี ร้อยละ 27.10 ระบุว่า เปลี่ยนรัฐบาลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ร้อยละ 23.97 ระบุว่า เพิ่มกำลังทางทหารชายแดน เพื่อป้องกันประเทศ ร้อยละ 21.30 ระบุว่า กดดัน ฟ้องร้องและประณามกัมพูชาผ่านกลไกระหว่างประเทศ ร้อยละ 20.00 ระบุว่า ไปต่อแบบไหนก็ได้ แต่ต้องไม่เสียดินแดนและไม่เสียเปรียบให้กัมพูชา ร้อยละ 19.62 ระบุว่า ให้มีประเทศที่สามเป็นตัวกลางในการเจรจาการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ร้อยละ 16.49 ระบุว่า รบต่อจนกว่าจะได้ชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จ ร้อยละ 11.15 ระบุว่า ไปต่อแบบไหนก็ได้ แต่ขอเพียงแค่ไม่มีการสู้รบกัน ร้อยละ 5.19 ระบุว่า ใช้กลไกศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ตามข้อเรียกร้องของกัมพูชา ร้อยละ 2.90 ระบุว่า เปิดด่านทั้งหมดเพื่อให้เศรษฐกิจชายแดนเข้าสู่ภาวะปกติ ร้อยละ 2.67 ระบุว่า แทรกแซงการเมืองภายในประเทศกัมพูชาเพื่อล้มอำนาจ ฮุน เซน และรัฐบาล ฮุน มาเนต ร้อยละ 2.21 ระบุว่า สนับสนุนรัฐบาลปัจจุบันอย่างเต็มที่ ในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา และร้อยละ 0.31 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ท้ายที่สุดเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อการปฏิบัติของโรงพยาบาลในการรับผู้ป่วยชาวกัมพูชา เพื่อการรักษาพยาบาล พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 51.37 ระบุว่า ไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ทั้งผู้ที่อาศัยอยู่ในไทยและขอข้ามแดนมาเพื่อการรักษาพยาบาล รองลงมา ร้อยละ 35.81 ระบุว่า ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในไทยเท่านั้น ร้อยละ 11.45 ระบุว่า ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ไม่ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ในไทยหรือขอข้ามแดนมาเพื่อการรักษาพยาบาล และร้อยละ 1.37 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ   * ข่าว * การเมือง * ความมั่นคง * กรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา * นิด้าโพล * โพล
dlvr.it
August 10, 2025 at 5:04 AM Everybody can reply
🔥 นิด้าโพลชี้ ประชาชนเกือบครึ่ง (48.24%) หนุน "นายกฯอิ๊งค์" ปรับ ครม. ด่วน! ชี้เป้า "กระทรวงพาณิชย์" นำโด่ง คนอยากให้เปลี่ยนรัฐมนตรีมากสุด (57.02%) 🤔 รัฐบาลจะขยับเมื่อไหร่? อ่านผลสำรวจเต็มๆ ที่นี่! #นิด้าโพล #ปรับครม #รัฐบาล #แพทองธาร #ข่าวการเมือง

อ่านต่อ https://th.xee4.com?p=3778
April 20, 2025 at 9:21 AM Everybody can reply
#สมเด็จฮุนเซน โต้ #นิด้าโพล หลังบอกคนไทยมองความขัดแย้งสองประเทศทำไปเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ลั่นมาสำรวจความเห็นต่อผู้นำเพื่อนบ้านเป็นเรื่องน่าขันและไร้เหตุผล ชี้ควรไปสำรวจความเห็นต่อผู้นำตนเอง ย้ำทำแบบนี้หวั่นประชาชนชาวไทยอาจรัก "ฮุน เซน" เพราะทำให้ดูเหมือนผู้ทรยศต่อประเทศชาติ!...
.
อ่านต่อได้ที่ www.dailynews.co.th/news/4900357/
#ฮุนเซน #ชายแดนไทยกัมพูชา #กัมพูชา
July 9, 2025 at 11:03 AM Everybody can reply
1 reposts
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สำรวจความคิดเห็น เรื่อง “การชุมนุมหลังจัดตั้งรัฐบาล” ระหว่างวันที่ 14-16 มิ.ย. 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง
June 18, 2023 at 7:55 AM Everybody can reply
'นิด้าโพล' ชี้หากวันนี้เลือกตั้ง 50.69% ไม่เลือก สส. เขตปัจจุบัน 40.46% ไม่เลือกพรรคเดิม
'นิด้าโพล' ชี้หากวันนี้เลือกตั้ง 50.69% ไม่เลือก สส. เขตปัจจุบัน 40.46% ไม่เลือกพรรคเดิม
'นิด้าโพล' ชี้หากวันนี้เลือกตั้ง 50.69% ไม่เลือก สส. เขตปัจจุบัน 40.46% ไม่เลือกพรรคเดิม auser15 Sun, 2025-08-17 - 09:41 'นิด้าโพล' สำรวจ 1,310 คน ระบุหากวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง 50.69% จะไม่เลือก สส. ปัจจุบันในเขตเลือกตั้งให้กลับเข้าสู่ตำแหน่ง 40.46% จะไม่เลือก สส. แบบบัญชีรายชื่อ จากพรรคการเมืองเดิมที่เคยเลือกเมื่อปี 2566 17 สิงหาคม 2568 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “มีความหวังหรือหมดหวังกับพรรคการเมือง” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 13-14 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการทำงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ปัจจุบัน ในเขตเลือกตั้ง การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 0.05 ที่ระดับความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0 จากการสำรวจเมื่อถามความพอใจของประชาชนต่อการทำงานของ สส. ปัจจุบัน ในเขตเลือกตั้ง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 32.29 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 28.24 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 27.18 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 11.60 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 0.69 ระบุว่า ไม่ตอบ สำหรับการเลือก สส. ปัจจุบันในเขตเลือกตั้งให้กลับเข้าสู่ตำแหน่ง หากวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 50.69 ระบุว่า ไม่เลือก รองลงมา ร้อยละ 25.57 ระบุว่า ไม่แน่ใจ และร้อยละ 23.74 ระบุว่า เลือก ด้านความหวังของประชาชนต่อพรรคการเมืองที่มี สส. อยู่ในสภาผู้แทนราษฎรปัจจุบัน (ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน) ในการแก้ปัญหาของประเทศ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 41.91 ระบุว่า หมดหวังแล้ว รองลงมา ร้อยละ 34.19 ระบุว่า ค่อนข้างหมดหวัง ร้อยละ 20.92 ระบุว่า ค่อนข้างมีความหวัง และร้อยละ 2.98 ระบุว่า มีความหวังมาก ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการเลือก สส. แบบบัญชีรายชื่อ จากพรรคการเมืองเดิมที่เคยเลือกเมื่อปี 2566 หากวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 40.46 ระบุว่า ไม่เลือก รองลงมา ร้อยละ 29.47 ระบุว่า เลือก ร้อยละ 26.95 ระบุว่า ไม่แน่ใจ และร้อยละ 3.12 ระบุว่า ยังไม่เคยไป/ไม่ได้ไปลงคะแนนเสียง * ข่าว * การเมือง * โพล * นิด้าโพล
dlvr.it
August 17, 2025 at 2:46 AM Everybody can reply
นิด้าโพลชี้คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ 'MOU 43 - MOU 44' แต่เห็นด้วยทำประชามติยกเลิก
นิด้าโพลชี้คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ 'MOU 43 - MOU 44' แต่เห็นด้วยทำประชามติยกเลิก
นิด้าโพลชี้คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ 'MOU 43 - MOU 44' แต่เห็นด้วยทำประชามติยกเลิก auser15 Sun, 2025-10-05 - 11:11 นิด้าโพลสำรวจ 1,310 คน เรื่อง “จะทำประชามติแล้ว…เข้าใจ MOU 43 และ MOU 44 หรือยัง” พบส่วนใหญ่ระบุว่าไม่เข้าใจ แต่ก็เห็นด้วยที่จะมีการทำประชามติยกเลิก 5 ตุลาคม 2568 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจเรื่อง “จะทำประชามติแล้ว…เข้าใจ MOU 43 และ MOU 44 หรือยัง”  ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 1-2 ตุลาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความเข้าใจของประชาชนต่อ MOU 43 และ MOU 44 ก่อนการทำประชามติ การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 0.05 ที่ระดับความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0 จากการสำรวจเมื่อถามความเข้าใจของประชาชนเกี่ยวกับเรื่อง MOU 43 พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 44.12 ระบุว่า ไม่เข้าใจเลย รองลงมา ร้อยละ 24.96 ระบุว่า ไม่ค่อยเข้าใจ ร้อยละ 23.13 ระบุว่า ค่อนข้างเข้าใจ และร้อยละ 7.79 ระบุว่า เข้าใจมาก ด้านความเข้าใจของประชาชนเกี่ยวกับเรื่อง MOU 44 พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 45.73 ระบุว่า ไม่เข้าใจเลยรองลงมา ร้อยละ 24.96 ระบุว่า ไม่ค่อยเข้าใจ ร้อยละ 22.44 ระบุว่า ค่อนข้างเข้าใจ และร้อยละ 6.87 ระบุว่า เข้าใจมาก สำหรับความต้องการของประชาชนในการทำความเข้าใจเรื่อง MOU 43 และ MOU 44 ให้ชัดเจนมากขึ้น พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 65.50 ระบุว่า ต้องการที่จะเข้าใจทั้ง MOU 43 และ MOU 44 รองลงมา ร้อยละ 34.04 ระบุว่า ไม่ต้องการที่จะเข้าใจเลยทั้ง MOU 43 และ MOU 44 และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ต้องการที่จะเข้าใจเฉพาะ MOU 43 และต้องการที่จะเข้าใจเฉพาะ MOU 44 ในสัดส่วนที่เท่ากัน ท้ายที่สุดเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อการทำประชามติเรื่องการยกเลิก MOU 43 และ MOU 44 พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 60.76 ระบุว่า เห็นด้วยที่จะมีการทำประชามติยกเลิกทั้ง MOU 43 และ MOU 44 รองลงมา ร้อยละ 20.92 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลยที่จะมีการทำประชามติยกเลิกทั้ง MOU 43 และ MOU 44 ร้อยละ 12.60 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ร้อยละ 4.96 ระบุว่า ไม่แน่ใจ ร้อยละ 0.46 ระบุว่า เห็นด้วยที่จะมีการทำประชามติยกเลิกเฉพาะ MOU 43 และร้อยละ 0.30 ระบุว่า เห็นด้วยที่จะมีการทำประชามติยกเลิกเฉพาะ MOU 44 * ข่าว * การเมือง * กรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา * MOU 43 * MOU 44 * นิด้าโพล * โพล
dlvr.it
October 5, 2025 at 4:25 AM Everybody can reply
นิด้าโพลชี้ 56.7% ไม่เห็นด้วยสถานบันเทิงครบวงจร-คาสิโน
นิด้าโพลชี้ 56.7% ไม่เห็นด้วยสถานบันเทิงครบวงจร-คาสิโน
นิด้าโพลชี้ 56.7% ไม่เห็นด้วยสถานบันเทิงครบวงจร-คาสิโน auser15 Sun, 2025-06-22 - 14:44 นิด้าโพลสำรวจ 1,310 คน ส่วนใหญ่ 56.7% ระบุว่าไม่เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและคาสิโน - เมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อแนวคิดการจัดทำประชามติ เรื่องสถานบันเทิงครบวงจรที่มีคาสิโน พบว่า 61.60% ระบุว่า เห็นด้วยกับการทำประชามติ 22 มิถุนายน 2568 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “สถานบันเทิงครบวงจร จะได้เกิดไหม” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 16-18 มิถุนายน 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อเรื่องสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์โดยกำหนดค่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 0.05 ที่ระดับความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0 จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อนโยบายการอนุญาตการลงทุนสถานบันเทิงครบวงจรที่รวมกาสิโน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 56.72 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและคาสิโน รองลงมาร้อยละ 24.12 ระบุว่า เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและคาสิโน ร้อยละ 9.01 ระบุว่า อย่างไรก็ได้ ไม่มีความเห็นร้อยละ 8.78 ระบุว่า เห็นด้วยกับสถานบันเทิงครบวงจร ที่ไม่มีคาสิโน และร้อยละ 1.37 ระบุว่า เห็นด้วยกับคาสิโนเพียงอย่างเดียว เมื่อสอบถามผู้ที่เห็นด้วยกับสถานบันเทิงครบวงจร ที่ไม่มีคาสิโน และผู้ที่ไม่เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโน (จำนวน 858 หน่วยตัวอย่าง) เกี่ยวกับแนวทางการลงทุนสถานบันเทิงครบวงจรของรัฐบาล ซึ่งไม่ใช้งบประมาณของรัฐในการดำเนินการ แต่คาดว่าจะสร้างรายได้เข้าประเทศประมาณ 12,000 - 39,000 ล้านบาทต่อปี พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 84.15 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและคาสิโน รองลงมา ร้อยละ 11.31 ระบุว่า เห็นด้วยกับสถานบันเทิงครบวงจร ที่ไม่มีคาสิโน ร้อยละ 3.26 ระบุว่า เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโน ร้อยละ 0.70 ระบุว่า เห็นด้วยกับคาสิโนเพียงอย่างเดียว และร้อยละ 0.58 ระบุว่า อย่างไรก็ได้ ไม่มีความเห็น เมื่อสอบถามผู้ที่เห็นด้วยกับสถานบันเทิงครบวงจร ที่ไม่มีคาสิโน และผู้ที่ไม่เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโน (จำนวน 858 หน่วยตัวอย่าง)  เกี่ยวกับมาตรการของรัฐบาลในการป้องกันการฟอกเงิน และควบคุมผู้เข้าใช้บริการคาสิโน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 81.47 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและคาสิโน รองลงมา ร้อยละ 10.49 ระบุว่า เห็นด้วยกับสถานบันเทิงครบวงจร ที่ไม่มีคาสิโน ร้อยละ 6.18 ระบุว่า เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและคาสิโน ร้อยละ 1.04 ระบุว่า อย่างไรก็ได้ ไม่มีความเห็น และร้อยละ 0.82 ระบุว่า เห็นด้วยกับคาสิโนเพียงอย่างเดียว เมื่อสอบถามผู้ที่เห็นด้วยกับสถานบันเทิงครบวงจร ที่ไม่มีคาสิโน และผู้ที่ไม่เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและคาสิโน (จำนวน 858 หน่วยตัวอย่าง)  เกี่ยวกับข้อกำหนดในร่าง พ.ร.บ. ที่ระบุให้นำรายได้จากสถานบันเทิงครบวงจร ไปใช้เพื่อสนับสนุนทุนการศึกษา การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 78.21 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและคาสิโน รองลงมา ร้อยละ 14.10 ระบุว่า เห็นด้วยกับสถานบันเทิงครบวงจร ที่ไม่มีคาสิโน ร้อยละ 6.53 ระบุว่า เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโน และร้อยละ 0.58 ระบุว่า เห็นด้วยกับคาสิโนเพียงอย่างเดียว และอย่างไรก็ได้ ไม่มีความเห็น ในสัดส่วนที่เท่ากัน สำหรับความคิดเห็นของประชาชนต่อการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งอยู่ในวาระแรกของการเปิดประชุมสภาในต้นเดือนกรกฎาคมนี้ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 37.10 ระบุว่า สภาจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ฯ แต่จะลงมติ ไม่ผ่านร่างในวาระที่หนึ่ง รองลงมา ร้อยละ 27.48 ระบุว่า จะมีการเลื่อนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ฯ ออกไปร้อยละ 19.85 ระบุว่า สภาจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ฯ และลงมติ ผ่านร่างในวาระที่หนึ่ง ร้อยละ 8.17 ระบุว่า ไม่ตอบ และร้อยละ 7.40 ระบุว่า จะมีการยุบสภาก่อนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ฯ ท้ายที่สุดเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อแนวคิดการจัดทำประชามติ เรื่องสถานบันเทิงครบวงจรที่มีคาสิโน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 61.60 ระบุว่า เห็นด้วยกับการทำประชามติ รองลงมา ร้อยละ 30.08 ระบุว่าไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติ ร้อยละ 7.94 ระบุว่า อย่างไรก็ได้ ไม่มีความเห็น และร้อยละ 0.38 ระบุว่า ไม่ตอบ * ข่าว * การเมือง * เศรษฐกิจ * สังคม * คุณภาพชีวิต * นิด้าโพล * โพล * เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
dlvr.it
June 22, 2025 at 7:51 AM Everybody can reply