The Foreseer
@permafrostseer.bsky.social
130 followers 17 following 160 posts
Promise me you won’t cry again.
Posts Media Videos Starter Packs
permafrostseer.bsky.social
เขาเผยรอยยิ้มออกมาเช่นกัน แต่ตอนนี้สายตาของเขาจับจ้องไปยังคนข้างกาย แทนที่จะเป็นภาพอันงดงามเบื้องหน้า

“เช่นนั้นก็จดจำภาพในครานี้ไว้เสีย…”

“ข้าเองก็จักจดจำไว้มิให้มันเลือนจางไป…”
permafrostseer.bsky.social
“สองความปรารถนา ย่อมแรงกล้ากว่าเพียงหนึ่ง”

เขามองโคมกระดาษที่ค่อย ๆ ลอยสูงขึ้นไป สลับกับใบหน้านวลผ่องใต้แสงจันทร์และแสงจากดวงไฟที่สาดส่องลงมา

“มันคงจะต้องเป็นจริง…ข้าเชื่ออย่างนั้น”
permafrostseer.bsky.social
“ด้วยโคมลอยมากมายขนาดนี้ ท่านคงจะได้ยินคำขอของเจ้าแล้ว…”

เขาเอ่ยไปเช่นนั้น แม้ไม่อาจรู้เลยว่าแอสตร้าเคยฟังคำขอพรจากมนุษย์บ้างหรือไม่

“แต่หากแม้ท่านจะไม่ได้ยิน ข้าก็รับรู้แล้วหนา…”
permafrostseer.bsky.social
เขาหัวเราะเบา ๆ เมื่อเห็นลวดลายบนโคมลอย ช่างน่ารักน่าเอ็นดูสมกับเป็นนาง

แม้ไม่ได้เอ่ยคำชมออกไปตรง ๆ แต่สายตาที่มองหญิงสาวก็บ่งบอกว่าเขาชื่นชมนางแค่ไหน

มือที่สวมถุงมือจับประคองโคมลอยฝั่งตรงข้ามกับหญิงสาว เตรียมปล่อยมันขึ้นสู่ท้องฟ้า

“เช่นนั้น…คำอธิษฐานของข้าก็คือ ขอให้ความปรารถนาของเจ้าเป็นจริง”
permafrostseer.bsky.social
“อืม…ช่างดูมีเอกลักษณ์สมกับเป็นเจ้า”

เขาเอ่ยในขณะที่มือเอื้อมไปจับขอบล่างของโคมลอยฝั่งตรงข้ามกับนาง เตรียมปล่อยมันให้ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ใบหน้าของเขาแต้มด้วยรอยยิ้มในขณะที่มองสบตา

“ข้าคงมิต้องกล่าวคำอธิษฐานซ้ำ…เมื่อเราปรารถนาสิ่งเดียวกัน”
permafrostseer.bsky.social
เขามองรอยยิ้มบนใบหน้านวลแล้วก็พลันยิ้มตาม ก่อนจะเอ่ยออกมา

“ข้าเองก็ชอบเช่นกัน…”

แต่เมื่อเอ่ยเช่นนั้นแล้ว เขากลับหันไปมองท้องฟ้าทั้งเดิม แสร้งทำเป็นว่าคำชมนั้นเขามอบให้กับดวงไฟบนฟ้า
permafrostseer.bsky.social
“เกรงว่าข้าจะไม่มีสิ่งใดให้อธิษฐาน…”

แม้กล่าวเช่นนั้น แต่สองมือก็จับขอบล่างของโคมลอยเอาไว้ ในขณะนั้นเอง ความปรารถนาที่ไม่เคยมีมาตลอดหลายร้อยปี ก็ปรากฏขึ้นมาในใจ

‘ข้าปรารถนาจะอยู่คู่เคียงกับนางตลอดไป…’

เขาไม่ได้เอ่ยมันออกมา และไม่ได้ปรารถนาให้มันส่งไปจนถึงแอสตร้า ได้แต่เพียงหวังอยู่ลึก ๆ ในใจเท่านั้น

ท้ายที่สุดแล้ว สองแขนก็ยกขึ้นเพื่อปล่อยโคทแห่งความปรารถนาขึ้นสู่ฟ้าไป
permafrostseer.bsky.social
เขาคลี่ยิ้มออกมาอีกครา ก่อนที่มือทั้งสองจะจับขอบด้านล่างของโคมลอยเอาไว้ เตรียมส่งมันขึ้นสู่นภา

เปลือกตาทั้งสองปิดลง เป็นอันรับรู้ว่าเขากำลังเอ่ยขอพรในใจ มิได้เอ่ยมันออกมาเป็นคำพูด

เมื่อขอพรจนจบ สองแขนจึงยกขึ้นส่งให้โคมมนตราล่องลอยสูงขึ้นไปจนลับสายตา

ถ้าหากข้าขอมีนางอยู่เคียงกายตลอดไป คงไม่มากเกินไปดอกหนา…
permafrostseer.bsky.social
“ความปรารถนาของเจ้า…ข้ารับรู้แล้ว”

“แต่หากต้องการให้แอสตร้าทรงรับรู้ โคมลอยเพียงดวงเดียวอาจไม่เพียงพอ”

สิ้นคำกล่าวนั้น ท้องฟ้ายามราตรีที่เคยมืดมิดก็พลันสว่างไสวไปด้วยโคมลอยนับร้อยนับพัน อันเกิดจากมนตราแห่งเทพพยากรณ์

“เจ้าชอบหรือไม่?”
permafrostseer.bsky.social
“อืม…งดงามเชียว”

เขาเอ่ยชม พร้อมรอยยิ้มที่แต้มจาง ๆ บนมุมปาก

แต่เมื่อหญิงสาวเป็นผู้เสนอให้เขาเป็นฝ่ายอธิษฐาน สีหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นฉงน ก่อนที่จะส่ายหน้าช้า ๆ เป็นการปฏิเสธ

“ข้าไม่มีสิ่งใดที่จะร้องขอต่อแอสตร้าดอก…”
permafrostseer.bsky.social
“เป็นหิมะที่ดูพิลึกนัก…แต่ก็พออนุมานได้ว่ามันคือเจ้ากับข้า”

แม้ไม่ได้เอ่ยชม แต่ริมฝีปากของเขาหยักเป็นรอยยิ้มในขณะที่พินิจมองภาพวาดบนโคมกระดาษ บ่งบอกว่าเขาชื่นชมมันเพียงไร

เขาเพียงแค่ยืนนิ่งไม่พูดจา ฟังนางอธิษฐาน

ถ้าหากเขาจะอธิษฐาน…ก็คงมีเพียงเรื่องเดียว นั่นคือขอให้คำอธิษฐานของนางเป็นจริง…
permafrostseer.bsky.social
ลำพังโคมกระดาษอันน้อยที่ทำด้วยมือ คงมิอาจพาความปรารถนาของนางขึ้นไปบนนภาได้…

หญิงสาวมองเศษกระดาษที่ถูกเผาไหม้ตกลงมาบนพื้นอย่างละเหี่ยใจ แต่ยามที่นางกำลังจะถอดใจกับคำอธิษฐานนั้น…

“หากเจ้าต้องการให้แอสตร้าทรงรับฟังคำอธิษฐาน เจ้าคงต้องใช้โคมที่มั่นคงกว่านี้…”

เขาก็เอ่ยขึ้นพร้อมโคมอันใหญ่ที่สรรค์สร้างจากมนตรา

(สามารถวาดตกแต่งโคมลอยและแนบภาพในโควทพร้อมคำอธิษฐานได้)
permafrostseer.bsky.social
“โอ ข้าแต่องค์ผู้ทรงฤทธิ์“

”องค์แอสตร้าผู้ยิ่งใหญ่ บารมีเกรียงไกรเกริกฟ้า“

นางเอ่ยคำอธิษฐาน พร้อมด้วยโคมกระดาษอันน้อยในมือ

”ขอให้ข้าหายจากโรคร้ายนี้…ขออย่าให้ข้าเป็นดั่งน้ำแข็งเยือกเย็นเมื่อสิ้นชีวา…“

สิ้นคำปรารถนานั้น โคมอันน้อยก็ลอยขึ้นสู่ฟ้า ก่อนที่จะถูกไฟแผดเผาเป็นจุล ร่วงหล่นลงมาสู่พื้นหินยะเยือกของยอดหอคอย

ความปรารถนาของนางคงส่งไปไม่ถึงฟ้าสวรรค์เป็นแน่…
permafrostseer.bsky.social
วันนี้วันอะไร? เช่นนั้นหรือ…?

ข้าก็มิเห็นว่าวันนี้จะต่างจากวันธรรมดาทั่วไปอย่างไร
permafrostseer.bsky.social
อย่าลืมรดน้ำดอกมะลิ
permafrostseer.bsky.social
จากที่คิดว่าวันนี้พระเจ้าคงมิได้ประทานโชคให้ ก็ได้รู้แล้วว่าเขาได้พบกับโชคที่อัศจรรย์ยิ่งกว่าโชคจากฟ้าสวรรค์เข้าแล้ว…
permafrostseer.bsky.social
เมื่อหล่อนได้ทราบชื่อของบุรุษตรงหน้าตามที่ปรารถนา ริมฝีปากก็คลี่ยิ้มออกมา

”เซน…ฉันจะจำชื่อนี้ไว้อย่างดีเลย“

”แล้วเอาไว้ฉันจะบอกชื่อของฉันให้คุณรู้ เมื่อเราได้พบกันครั้งหน้านะคะ”

เมื่อได้ยินดังนั้น เซนก็ยิ้มออกมา

เขามั่นใจเสียยิ่งกว่าอะไรเชียว ว่าคำพูดนั้นจะต้องเป็นคำสัญญาว่าเขาและหล่อนจะต้องได้มาพบกันอีกในไม่ช้าก็เร็ว…
permafrostseer.bsky.social
ดวงตาทั้งสองคู่มองสบกัน ต่างฝ่ายต่างซ่อนความเว้าวอนเล็ก ๆ เอาไว้ ราวกับว่าความคิดในใจนั้นตรงกัน

อยากให้ช่วงเวลาที่ได้อยู่ชิดใกล้นั้นยาวนานกว่านี้อีกสักหน่อย…

แต่ก่อนที่จะได้ร่ำลา หญิงสาวก็ชิงเอ่ยขึ้นมาเสียก่อน

”ฉันขอทราบชื่อของคุณหน่อยได้หรือไม่?“

ผู้ที่ถูกเอ่ยถามแสดงสีหน้าฉงนออกมาครู่หนึ่ง แต่ก็ยอมเอ่ยนามของตนไปอย่างไม่คิดปฏิเสธ

”เซน…“
permafrostseer.bsky.social
หนุ่มสาวทั้งคู่เดินเรื่อยมาตามทางอย่างไม่รีบร้อน แลกเปลี่ยนบทสนทนาซึ่งกันและกัน แลกวาจา แลกสายตา จนความรู้สึกบางอย่างค่อย ๆ ก่อขึ้นมาในใจ

ตลอดชีวิตที่มีมายี่สิบเจ็ดปี…วันนี้คงเป็นวันแรกที่รู้สึกว่าดวงใจมันพองคับอกได้ถึงเพียงนี้

และแล้วทั้งคู่ก็เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าโบสถ์ เส้นทางที่เดินร่วมกันได้สิ้นสุดลง บ่งบอกว่าถึงเวลาต้องร่ำลากันแล้ว

“คงต้องลากันตรงนี้แล้วหนา…”

”ก็คงต้องเป็นเช่นนั้นค่ะ“
permafrostseer.bsky.social
“หากคุณจะกลับไปที่โบสถ์ ก็ให้ฉันช่วยถือจะดีกว่าค่ะ อย่างไรฉันก็จะต้องเดินกลับไปทางนั้นอยู่แล้ว”

เขายังไม่ทันตั้งตัวได้ดีนัก ราวกับสติได้หลุดลอยไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็มิอาจรู้ แต่เขาก็ยังรู้ว่าไม่ควรปฏิเสธน้ำใจในครั้งนี้

“ขอบคุณครับ”

permafrostseer.bsky.social
“จำได้ซีคะ คุณเล่นเปียโนเก่งออกปานนั้น ฉันละสายตาไม่ได้เลย ยังนึกอยู่เลยว่าเผลอมองมากเกินไปจนเสียมารยาทหรือเปล่า“

ประโยคคำชมนั้น จะว่าทำให้ใจพองโตก็คงใช่ หากแต่มันก็ยิ่งทำให้ใจเต้นไม่เป็นส่ำมากกว่าเดิม

แลเมื่อเห็นว่าปฏิกิริยาตอบโต้จากนักดนตรีหนุ่มมีเพียงยืนนิ่งและอ้ำอึ้งอยู่แบบนั้น หล่อนก็หัวร่อออกมาอีกครั้ง ก่อนจะถือวิสาสะฉวยเอาขนมปังถุงหนึ่งที่เขาโอบไว้ในอ้อมแขนมาถือไว้เสียเอง
permafrostseer.bsky.social
ใช้เวลาอยู่นานเชียว กว่าเขาจะหาเส้นเสียงของตนพบ

”ขอบคุณครับ…“

หล่อนยิ้มให้เขารับคำขอบคุณนั้น ช่างดูเจิดจ้าเสียยิ่งกว่าดวงตะวันเหนือหัว จนเขาต้องเบนสายตาหลบหนี

“คุณซื้อขนมปังพวกนี้กลับไปที่โบสถ์หรือคะ?”

คำถามนั้นทำให้เซนต้องหันกลับมามอง พร้อมทั้งกะพริบดวงตาช้า ๆ

“คุณจำผมได้ด้วยหรือ…?”

การตอบคำถามด้วยคำถามเช่นนั้น ทำให้เจ้าหล่อนยกมือขึ้นปิดปากพร้อมทั้งหัวร่อออกมาเบา ๆ
permafrostseer.bsky.social
เธอคือหญิงสาวที่เขาได้สบตาในโบสถ์เมื่อวันนั้น…

ราวกับว่าสมองของเขาหยุดการประมวลผลไปแล้ว ในตอนที่ได้ยินหล่อนเอ่ยขออนุญาตเบา ๆ ก่อนที่จะเขย่งตัวขึ้นเพื่อสวมหมวกใบนั้นกลับคืนยังตำแหน่งเดิม แล้วจึงก้าวถอยออกมาเล็กน้อย

เซนรู้สึกว่าดวงใจในอกเต้นแรงเสียจนเขาสามารถได้ยินมันทุกจังหวะ รู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าวราวยืนอยู่หน้าเตาไฟที่กำลังลุกโชน
permafrostseer.bsky.social
แต่วันนี้พระเจ้าคงไม่ได้ประทานโชคให้เขามากนัก เมื่อหมวกที่สวมอยู่ถูกลมพัดปลิวออกจากศีรษะก่อนจะร่วงตกลง เขาถอนหายใจออกมา นึกตำหนิโชคชะตาในใจว่าลำพังแค่ต้องหอบถุงขนมปังเสียจนเต็มสองมือ คงยังลำบากไม่พอ

หากแต่ยังไม่แม้เพียงจะก้าวออกจากจุดที่ยืนอยู่ หญิงสาวคนหนึ่งก็ย่อตัวลงเก็บหมวกที่น่าสงสารใบนั้น ก่อนจะเดินตรงมาหาเจ้าของหมวกที่บัดนี้ยืนนิ่งค้างไปเสียแล้ว