natTP 🧪 สาขาบลูสกาย
banner
nattp.page
natTP 🧪 สาขาบลูสกาย
@nattp.page
TH/EN/JP | 🇹🇭 writer & artist who works in tech ✍️ blog.nattp.page
🤍 WTC (Higurashi/Umineko) / SciADV (S;G) / IM@S (765Pro)

⏩ linktr.ee/natTP
มาถึงจุดนี้กับประสบการณ์การอ่านที่พลิกไปพลิกมาเกิดคาด สรุปว่าเรารู้สึกอย่างไรกับหนังสือเล่มนี้กันแน่เหรอ?

ชอบนะ

และเชื่อว่าการอ่านครั้งต่อไป และต่อๆ ไป จะซึมซับความหมายในถ้อยคำอันแน่นกระชับของ Gibson ได้มากขึ้นอีก

ได้ข่าวว่าจะมีซีรีส์ AppleTV+ เรื่องนี้ออกมา ตื่นเต้นเลย (14)
http://loremgibson.com/ไว้เจน
July 15, 2025 at 12:26 PM
การที่มาอ่านหนังสือเล่มนี้ ในปี 2025 นี้ อาจจะรู้สึกว่าคาแรกเตอร์แฮกเกอร์ใต้ดิน สาวสวยนักฆ่าไฮเทค การต่อเติมร่างกายเป็นไซบอร์ก โลกในเมทริกซ์ เชื่อมต่อกับโลกไซเบอร์ผ่านสมอง โตเกียวไซเบอร์พังก์ เอไอที่อำนาจมากเกินควบคุม ฯลฯ เป็นคอนเซปต์ที่เกร่อไปทั่วแล้ว แต่นั่นก็เพราะมี Neuromancer เป็นผู้เปิดทางไอเดียเหล่านี้มาต่างหาก (13)
July 15, 2025 at 12:26 PM
- ต่อจากด้านบน ยอมรับว่าสมองแอบหลับนิดนึงตอนอ่านท่อน Technobabble เกี่ยวกับการแฮ็กหรือใช้คอมต่างๆ เพราะมันแบบ… พี่พูดอะไรน่ะ? ฮ่า

“คุณอาจไม่รู้จัก Neuromancer… แต่ถ้าคุณรู้จักไซเบอร์พังก์ไม่ว่าจะเรื่องไหน คุณน่ะรู้จัก Neuromancer แล้ว” (12)
July 15, 2025 at 12:26 PM
จุดอ่อน

- เราไม่ได้รู้สึกผูกพันกับตัวละครเท่าไร โดยเฉพาะในครึ่งแรกที่แอบรำคาญมันทุกคน
มอลลี่นางเอกดูเหมือน Maniac Pixie Dream Girl ไปหน่อยในตอนต้น แต่พอเห็นปูมหลังมากขึ้นก็เข้าใจ

- ไอ้การบรรยายการแฮ็กหรือท่องอินเตอร์เน็ตเป็นภาพ visual แอบตลกนิดหน่อย แต่ก็เข้าใจได้ด้วยยุคสมัยและพอมองเห็นความเท่อยู่ (11)
July 15, 2025 at 12:26 PM
- พอคิดว่าเขียนขึ้นในช่วง 1980s ก่อนที่อินเตอร์เน็ตหรือคอมพิวเตอร์จะแพร่หลาย (เรื่องนี้เขียนด้วยพิมพ์ดีด! คนเขียนยังยอมรับเลยว่าเขียนเรื่องนี้ขึ้นโดยที่ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เลย!) ก็นับถือว่าเป็นหนังสือที่มาก่อนกาลจริงๆ…

หรืออย่างที่คำตามในเล่มว่าไว้ อาจเป็นหนังสือเล่มนี้เอง ที่เป็นแรงบันดาลใจให้คนในวงการเทคโนโลยีเลยก็เป็นไปได้ (10)
July 15, 2025 at 12:26 PM
จุดแข็ง

- เซตติ้ง จะเรียกว่าเซตติ้งเป็นตัวละครที่ดีที่สุดของเรื่องเลยก็ได้ คาแรกเตอร์ของแต่ละสถานที่ที่ไปมันชัดเจนแจ่มแจ้ง โดยเฉพาะเซตติ้งของครึ่งหลังของเรื่องอย่างฟรีไซด์ที่เป็นเมืองในอวกาศ และด่านสุดท้ายที่พวกตัวเอกต้องบุกเข้าไปก็เป็นคฤหาสน์ที่ตั้งอยู่บนขอบของการมี/ไม่มีแรงโน้มถ่วง โอ๊ย สุดจะเท่

แค่เห็นเซตติ้งก็เข้าใจแล้วว่าหนังสือเล่มนี้ไอคอนิกขึ้นมาได้อย่างไร (9)
July 15, 2025 at 12:26 PM
องย้อนกลับจากตอนอ่านทั้งหมดแล้ว เราคิดว่าภาษามันเป็นการสร้างบรรยากาศที่จงใจ ให้ภาพของโลกที่มัวและชัดในบางจุด ให้ภาพของตัวละครที่สมองไม่ค่อยจะเป็นชิ้นเป็นอันสักเท่าไร ให้ความรู้สึกว่ากำลังได้พบกับการผจญภัยเหนือจินตนาการ (8)
July 15, 2025 at 12:26 PM
เมื่อเข้าสู่กลางเรื่อง สักบทที่ 11 นั่นละ เหมือนกับว่าอะไรบางอย่างมันเริ่มลงล็อก แล้ว 30% ท้ายของเรื่องก็ไม่อาจหยุดอ่านได้อีกต่อไป ส่วนหนึ่งก็เพราะประเด็นข้อ 1 (ศัพท์เฉพาะ) เริ่มไม่เป็นปัญหา อีกส่วนเพราะเหตุการณ์ในเรื่องเริ่มน่าสนใจ payoff เริ่มมา กำลังได้รู้ปูมหลังตัวละครมากขึ้น มาถึงตอนจบเราก็รู้สึกว่าสนุก ถ้าตัดเอาเรื่องศิลปะการใช้ภาษาออกไป พล็อตก็ค่อนข้างเข้าใจง่ายเลยละ (7)
July 15, 2025 at 12:26 PM
ต้องยอมรับว่าเป็นสำนวนที่ออกแบบมาให้ค่อยๆ อ่าน อ่านวนย่อหน้าเดิมหลายครั้งเลยยิ่งดี บางทีพออ่านจุดเดิมวนหลายครั้งแล้วอยู่ๆ มันก็จะปลดล็อกความเข้าใจที่ไม่ทันเก็บในรอบแรก แล้ว the implications sink in on how fucked up these people are

ปกติหนังสือสักเรื่องหนึ่งอย่างไรก็ต้องใช้เวลาปรับตัวให้เข้ากับมันสักพัก แต่กว่าจะชินมือกับเล่มนี้ใช้เวลานานพอสมควร (6)
July 15, 2025 at 12:26 PM
2. สำนวนเน้นความอาร์ตและคาแรกเตอร์มากกว่าความชัดเจน ไม่ว่าจะศัพท์สแลงหรือว่าประโยคสุดติสต์แต่ละอัน บางทีก็อ่านแล้วรู้สึกเหมือนฉันเสียชาติเกิดเป็นอเมริกัน ไม่เข้าใจ มีฉากหนี่งที่บทพูดงงและตัวละครอีกตัวที่ฟังอยู่ก็งง เราตั้งคำถามกับตัวเองว่า ณ จุดนี้เขาอยากให้เราเข้าใจหรือไม่เข้าใจวะ Trust issues ไปเลย ฮา (5)
July 15, 2025 at 12:26 PM
สิ่งที่ Gibson ชอบทำ
1. ใช้ศัพท์เฉพาะ (ที่แปลว่า เฉพาะในเรื่อง) เยอะมาก บวกกับวิธีการเขียนที่ไม่จูงมือคนอ่าน จับโยนลงไปโดยไม่คิดจะอธิบายคอนเซปต์ใดๆ เป็นพิเศษ ให้ผู้อ่านเป็นคนปะติดปะต่อเอง ระหว่างอ่านเราค่อยๆ อ๋อ ว่าอ๋อนี่ชื่อบริษัท นี่ชื่อคน นี่ชื่อรุ่นคอมพิวเตอร์ นี่ชื่ออุปกรณ์ (4)
July 15, 2025 at 12:26 PM
เราใช้เวลากว่าสามเดือนในการอ่านไปถึงครึ่งแรก โดยอุปสรรคที่ขวางกั้นเราไว้มากที่สุดคือสไตล์การเขียน หลายคนเปรียบสำนวนของ William Gibson ว่าเป็นสไตล์ใกล้เคียงกับ Phillip K. Dick แต่ขอทีเถอะ ฉันว่า Dick อ่านง่ายกว่า (3)
July 15, 2025 at 12:26 PM
<สะดวกอ่านบนเว็บแทนได้น้า 👉 blog.nattp.page/article/neur... >

เราเริ่มเล่มนี้มาด้วยความคาดหวังที่สูงพอควรเลยละ ก็เป็นถึงนิยายระดับดำนานที่ก่อกำเนิด genre ของ cyberpunk ขึ้นมาเลยเชียวนะ แถมหน้าปกยังสวยสดมากด้วย ชอบ ประโยคเปิดเรื่องเฉียบคมสมคำร่ำลือมา แต่ว่าเมื่ออ่านไปเรื่อยๆ ก็ชักไม่แน่ใจว่าจะรู้สึกอย่างไรกับมันดี (2)
ความรู้สึกหลังอ่าน: Neuromancer
เราเริ่มเล่มนี้มาด้วยความคาดหวังที่สูงพอควรเลยละ ก็เป็นถึงนิยายระดับดำนานที่ก่อกำเนิด genre ของ cyberpunk ขึ้นมาเลยเชียวนะ แถมหน้าปกยังสวยสดมากด้วย
blog.nattp.page
July 15, 2025 at 12:26 PM
เรื่องราวของ “เคส” พ่อหนุ่มแฮ็กเกอร์ อดีตหัวขโมยข้อมูลที่ระบบประสาทถูกทำลายจนไม่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับไซเบอร์สเปซได้อีกต่อไป ได้แต่ใช้ชีวิตโหลยโท่ยติดยาไปวันๆ ในจุดต่ำสุดของชีวิต มีชายลึกลับเสนอตัวเข้ามารักษาเขา แลกกับการจ้างงานแฮ็กระบบของบริษัทแห่งหนึ่ง เคสยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้โลดแล่นในไซเบอร์สเปซอีกครั้ง แต่ก็ต้องพบว่างานนี้มีลับลมคมในกว่าที่คิดเสียอีก… (1)
July 15, 2025 at 12:26 PM