ปี 2 ชมรมจัดดอกไม้
🏡🌊 คฤหาสน์ริมผา ตระกูลโทคุชิโร่
doc: https://bit.ly/4j89ipx
ดวงตาไร้แววนั่นกลมปลืนไปกับความมืดตอบรอบเป็นอย่าฝดี
“ในฝันน่ะ คุณลุงเป็นคนที่เฝ้ามองอยู่ข้างนอก…หรือว่ากำลังมองจากข้างในดวงตาของตัวเอง?”
“คุณลุงเป็น ‘ตัวเอง’ หรือเป็นแค่เงาของตัวเองในความฝัน?”
รอยยิ้มบาง ๆ แตะริมฝีปากราวกับกลั้นหัวเราะบางอย่างไว้
”แค่สงสัยน่ะครับ“
”พอดีเมื่อครู่ดันฝันแปลกๆ เข้า“
”ดีจริงๆ เลยนะ ที่คุณลุงมาเจอ“
ดวงตาไร้แววนั่นกลมปลืนไปกับความมืดตอบรอบเป็นอย่าฝดี
“ในฝันน่ะ คุณลุงเป็นคนที่เฝ้ามองอยู่ข้างนอก…หรือว่ากำลังมองจากข้างในดวงตาของตัวเอง?”
“คุณลุงเป็น ‘ตัวเอง’ หรือเป็นแค่เงาของตัวเองในความฝัน?”
รอยยิ้มบาง ๆ แตะริมฝีปากราวกับกลั้นหัวเราะบางอย่างไว้
”แค่สงสัยน่ะครับ“
”พอดีเมื่อครู่ดันฝันแปลกๆ เข้า“
”ดีจริงๆ เลยนะ ที่คุณลุงมาเจอ“
“เห็นทุกอย่างชัดเกินไปจนบางทีก็เหมือนไม่เหลือพื้นที่ให้เราคิดเงียบ ๆ เลยสักนิด”
เขาหยุดเดิน หันไปมองทะเลที่ทอดยาวราวกับไร้ปลายทาง
ไม่มีแสงจันทร์ ไม่มีแสงดาว
มีเพียงเส้นแบ่งระหว่างน้ำกับฟ้าที่จางเสียจนเกือบมองไม่เห็น
“จะว่าไป“ เสียงเขาดังขึ้นหน่อยเหมือนจะคิดอะไรขึ้นได้
“เวลาอยู่ในฝันคุณลุงเคยมองเห็นตัวเองบ้างไหมครับ?”
+
“เห็นทุกอย่างชัดเกินไปจนบางทีก็เหมือนไม่เหลือพื้นที่ให้เราคิดเงียบ ๆ เลยสักนิด”
เขาหยุดเดิน หันไปมองทะเลที่ทอดยาวราวกับไร้ปลายทาง
ไม่มีแสงจันทร์ ไม่มีแสงดาว
มีเพียงเส้นแบ่งระหว่างน้ำกับฟ้าที่จางเสียจนเกือบมองไม่เห็น
“จะว่าไป“ เสียงเขาดังขึ้นหน่อยเหมือนจะคิดอะไรขึ้นได้
“เวลาอยู่ในฝันคุณลุงเคยมองเห็นตัวเองบ้างไหมครับ?”
+
ปล่อยให้คุณว่าไป สักพักถึงได้ชวนคุย
“จริง ๆ แล้ว“
”ผมน่ะ ชอบทะเลตอนกลางคืนนะครับ” เขาพึมพำ
เสียงของเขาเบา ราบเรียบ ราวกับไม่ต้องการให้รบกวนเสียงคลื่น
เท้าของโคยูกิย่ำทรายอย่างเงียบงัน ขณะที่เดินทอดไปตามแนวชายหาด ลมทะเลพัดชายเสื้อเขาให้พลิ้วไหว เบาเท่าลมหายใจของคนที่กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ
ปล่อยให้คุณว่าไป สักพักถึงได้ชวนคุย
“จริง ๆ แล้ว“
”ผมน่ะ ชอบทะเลตอนกลางคืนนะครับ” เขาพึมพำ
เสียงของเขาเบา ราบเรียบ ราวกับไม่ต้องการให้รบกวนเสียงคลื่น
เท้าของโคยูกิย่ำทรายอย่างเงียบงัน ขณะที่เดินทอดไปตามแนวชายหาด ลมทะเลพัดชายเสื้อเขาให้พลิ้วไหว เบาเท่าลมหายใจของคนที่กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ
มาเพ้ทๆๆ บ่อยๆ โรลสนุกอ่ะ งี้ด)
มาเพ้ทๆๆ บ่อยๆ โรลสนุกอ่ะ งี้ด)
เหมือนเขาจะรับรู้ได้ว่ามีบางอย่างแปลกๆ เกิดขึ้นกับคุณ
แต่มันก็ดูออกยากนักว่าเขาเห็นสิ่งเดียวกับคุณหรือไม่
หรือว่าสำหรับเขาแล้ว ท้องฟ้ายังคงเป็นสีของท้องฟ้าตามเดิม
“หลับตาลงสิ” เขาว่า
ก่อนจะออกแรงดึงมือที่จับกับคุณเบาๆ
พาเดินนำไปไหนสักทาง
คุณเพียงต้องเชื่อใจ และยอมให้เขานำทาง
เหมือนเขาจะรับรู้ได้ว่ามีบางอย่างแปลกๆ เกิดขึ้นกับคุณ
แต่มันก็ดูออกยากนักว่าเขาเห็นสิ่งเดียวกับคุณหรือไม่
หรือว่าสำหรับเขาแล้ว ท้องฟ้ายังคงเป็นสีของท้องฟ้าตามเดิม
“หลับตาลงสิ” เขาว่า
ก่อนจะออกแรงดึงมือที่จับกับคุณเบาๆ
พาเดินนำไปไหนสักทาง
คุณเพียงต้องเชื่อใจ และยอมให้เขานำทาง
drive.google.com/drive/folder... )
drive.google.com/drive/folder... )
“คุณลงไม่ไปนั่งตากลมด้วยกันหรอครับ” เขาเอียงคอถาม
“คุณลงไม่ไปนั่งตากลมด้วยกันหรอครับ” เขาเอียงคอถาม
น้ำเสียงของเขาเรียบ ๆ ไม่ได้ตำหนิ
“คุณลุงเลือกจะพาผมมารับลมทะเลตอนกลางคืนเนี่ยนะครับ”
เขาหัวเราะคิกคักออกมาเบาๆ
“ทะเลมืดๆ มองไม่เห็นอะไร”
“เป็นคนที่ไม่มีเซ้นส์เลยนะครับ”
จังหวะสุดท้ายของประโยคเหมือนถูกผูกโบว์ด้วยคำล้อ
“…ถึงจะดูสิ้นคิด แต่ก็ดีกว่าโรงพักเยอะเลยครับ”
เอาเถอะ
ถึงจะไม่ให้คะแนนเต็ม ก็ยังให้ผ่านอยู่ดี
+
น้ำเสียงของเขาเรียบ ๆ ไม่ได้ตำหนิ
“คุณลุงเลือกจะพาผมมารับลมทะเลตอนกลางคืนเนี่ยนะครับ”
เขาหัวเราะคิกคักออกมาเบาๆ
“ทะเลมืดๆ มองไม่เห็นอะไร”
“เป็นคนที่ไม่มีเซ้นส์เลยนะครับ”
จังหวะสุดท้ายของประโยคเหมือนถูกผูกโบว์ด้วยคำล้อ
“…ถึงจะดูสิ้นคิด แต่ก็ดีกว่าโรงพักเยอะเลยครับ”
เอาเถอะ
ถึงจะไม่ให้คะแนนเต็ม ก็ยังให้ผ่านอยู่ดี
+
ท่าทีไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธอะไรชัดเจน
เขาเงียบเฉยตลอดทางที่ล้อหมุน
ตั้งใจทำเหมือนว่ากำลังเมินคำพูดของคุณ
จนกระทั่งจักรยานจอดลงริมทะเล
เสียงคลื่นที่มองไม่เห็นซัดมากับลม
กลิ่นคาวเค็มแทรกเข้าจมูก
โคยูกิไม่รีบลงจากเบาะ เขาเพียงแค่เงยหน้ามองทะเลเงียบ ๆ
แล้วขยับเส้นผมที่โดนลมตีจนพันกันออกจากหน้าอย่างเฉื่อยชา
+
ท่าทีไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธอะไรชัดเจน
เขาเงียบเฉยตลอดทางที่ล้อหมุน
ตั้งใจทำเหมือนว่ากำลังเมินคำพูดของคุณ
จนกระทั่งจักรยานจอดลงริมทะเล
เสียงคลื่นที่มองไม่เห็นซัดมากับลม
กลิ่นคาวเค็มแทรกเข้าจมูก
โคยูกิไม่รีบลงจากเบาะ เขาเพียงแค่เงยหน้ามองทะเลเงียบ ๆ
แล้วขยับเส้นผมที่โดนลมตีจนพันกันออกจากหน้าอย่างเฉื่อยชา
+
เขาพึมพำกับตัวเอง
เสียงเบาพอให้หลุดรอดเพียงขอบลมหายใจ
“ผมน่ะ ใจดีจะตาย”
น้ำเสียงไม่แสดงอารมณ์
เหมือนคนกำลังพูดถึงดินฟ้าอากาศในวันที่ใครสักคนเพิ่งหายไปจากขอบฟ้า
’ไว้วันหลังค่อยกลับมาเล่นกันใหม่นะครับ’
’เพราะถ้าหายไปนานเกินไปล่ะก็‘
…ผมจะลืมหน้านายเสียก่อน
(จบโรล😼 เย่)
เขาพึมพำกับตัวเอง
เสียงเบาพอให้หลุดรอดเพียงขอบลมหายใจ
“ผมน่ะ ใจดีจะตาย”
น้ำเสียงไม่แสดงอารมณ์
เหมือนคนกำลังพูดถึงดินฟ้าอากาศในวันที่ใครสักคนเพิ่งหายไปจากขอบฟ้า
’ไว้วันหลังค่อยกลับมาเล่นกันใหม่นะครับ’
’เพราะถ้าหายไปนานเกินไปล่ะก็‘
…ผมจะลืมหน้านายเสียก่อน
(จบโรล😼 เย่)
เขาไม่ไล่ตาม ไม่ถาม ไม่ห้าม
มีเพียงรอยยิ้มบางเฉียบ ที่ปรากฏขึ้นตรงมุมปาก
เหมือนเด็กที่เพิ่งได้ของเล่นชิ้นโปรด
แต่เลือกจะยังไม่แกะมันออกจากกล่องตอนนี้
เขายกนิ้วแตะขอบกระเป๋ากางเกงเบา ๆ
บริเวณที่ซุกซ่อนบัตรเอาไว้
สิ่งเล็กน้อยที่ไม่เคยสำคัญ
แต่ในเวลานี้กลับ มีน้ำหนักกว่าคำใด
+
เขาไม่ไล่ตาม ไม่ถาม ไม่ห้าม
มีเพียงรอยยิ้มบางเฉียบ ที่ปรากฏขึ้นตรงมุมปาก
เหมือนเด็กที่เพิ่งได้ของเล่นชิ้นโปรด
แต่เลือกจะยังไม่แกะมันออกจากกล่องตอนนี้
เขายกนิ้วแตะขอบกระเป๋ากางเกงเบา ๆ
บริเวณที่ซุกซ่อนบัตรเอาไว้
สิ่งเล็กน้อยที่ไม่เคยสำคัญ
แต่ในเวลานี้กลับ มีน้ำหนักกว่าคำใด
+
เสียงที่คุณคุ้นเคยดังขึ้นมาจากด้านหลัง
ในขณะที่คุณกำลังสับสนอยู่
โคยูกิส่งยิ้มกว้างให้เหมือนทุกคราว
เหมือนว่าเขาไม่ได้เห็นที่คุณเห็น
”กำลังจะไปไหนหรอ?“
เขาถามพลางอดินเข้าไปใกล้
”ตั้งแต่เปิดเทอมยังไม่คุณจะมาทักทายกัน“
”ห่างเหินกันเกินไปแล้ว“
เสียงที่คุณคุ้นเคยดังขึ้นมาจากด้านหลัง
ในขณะที่คุณกำลังสับสนอยู่
โคยูกิส่งยิ้มกว้างให้เหมือนทุกคราว
เหมือนว่าเขาไม่ได้เห็นที่คุณเห็น
”กำลังจะไปไหนหรอ?“
เขาถามพลางอดินเข้าไปใกล้
”ตั้งแต่เปิดเทอมยังไม่คุณจะมาทักทายกัน“
”ห่างเหินกันเกินไปแล้ว“
“คืนนี้แค่…นอนไม่หลับน่ะ”
คำพูดสุดท้ายนิ่งพอจะจบเรื่อง
“คุณลุงยังอยากพาผมไปที่สน. อยู่หรือเปล่าล่ะครับ” เขาถามอย่างอารมณ์ดี
“จริงๆ คุณลุงจะพาผมไปที่ไหนผมก็ไม่ได้ติดขัดนักหรอกนะครับ?”
“คืนนี้แค่…นอนไม่หลับน่ะ”
คำพูดสุดท้ายนิ่งพอจะจบเรื่อง
“คุณลุงยังอยากพาผมไปที่สน. อยู่หรือเปล่าล่ะครับ” เขาถามอย่างอารมณ์ดี
“จริงๆ คุณลุงจะพาผมไปที่ไหนผมก็ไม่ได้ติดขัดนักหรอกนะครับ?”