ศป.กฉ. แถลงผู้เสียชีวิต 'น้ำท่วม' 7 จ. ภาคใต้ รวม 33 ราย คาดอีก 5 วันสถานการณ์น้ำจะดีขึ้น
ศป.กฉ. แถลงผู้เสียชีวิต 'น้ำท่วม' 7 จ. ภาคใต้ รวม 33 ราย คาดอีก 5 วันสถานการณ์น้ำจะดีขึ้น
Pazzle
Wed, 2025-11-26 - 17:10
สิริพงศ์ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการ ศป.กฉ. แถลงยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วม 7 จังหวัดภาคใต้ รวม 33 คน นครศรีธรรมราช 9 ราย, พัทลุง 4 ราย, สงขลา 6 ราย, ตรัง 2 ราย, สตูล 2 ราย, ปัตตานี 5 ราย และยะลา 5 ราย โดยเมื่อวานนี้ได้มีการแจ้งเตือนอพยพประชาชนในจังหวัดที่ถัดออกไปจากจังหวัดสงขลาแล้ว เช่น สตูล , นครศรีธรรมราช ฯลฯ ตามการคาดการณ์ของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้อีก 5 วัน สถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น แต่บางจุดที่เป็นแอ่งลึกหรือพื้นที่ต่ำน้ำอาจจะยังลงได้ไม่หมด โฆษกศูนย์ปฏิบัติการ ศป.กฉ. ยื่นยันว่า การลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีไม่ได้ไปเป็นภาระ ไม่มีการแจ้งให้หน่วยงานใดรับแต่อย่างใด เพียงต้องการลงพื้นที่เพื่อดูปัญหาและอุปสรรคในการทำงานของเจ้าหน้าที่
26 พ.ย. 2568 NBT สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) แถลงผลการประชุมระบุว่า ภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีจากสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธานที่ประชุม และมีข้อสั่งการเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมหนักในพื้นที่ภาคใต้ดังนี้ ภาพรวมน้ำปริมาณน้ำฝนที่เติมเข้ามาในระบบมีปริมาณที่ลดน้อยลง แนวโน้มของน้ำในพื้นที่ภาคใต้มีแนวโน้มที่ลดลง โดยได้มีการแจ้งเตือนในจังหวัดที่ถัดออกไปจากจังหวัดสงขลาแล้ว เช่น สตูล , นครศรีธรรมราช มีการแจ้งเตือนอพยพตั้งแต่เมื่อวานแล้ว จากรายงานพบว่า หลังการแจ้งเตือนให้มีการอพยพยังมีประชาชนจำนวนหนึ่งยังไม่ได้อพยพ ทางศูนย์ ศป.กฉ. จึงความกังวลในอนาคตอาจจะเกิดความยากลำบากในการอพยพ จึงได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดให้ดำเนินการสำรวจกลุ่มเปราะบาง และเชิญชวนให้ไปอยู่ศูนย์พักพิง เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ส่วนในกรณีที่เป็นพื้นที่เฝ้าระวัง ศูนย์พักพิงจะมีการกำหนดจุดให้คนในพื้นที่ทราบก่อนที่จะมีคำสั่งอพยพ และจะดำเนินการเช่นนี้ทุกครั้ง
สิริพงศ์ยืนยันข่าวโรงพยาบาลหาดใหญ่มีจำนวนผู้เสียชีวิต 80 คน 100 คนบ้าง ไม่เป็นความจริง โดยได้รับการรายงานจากโรงพยาบาลหาดใหญ่ว่า มีจำนวนผู้เสียชีวิตจริง แต่มีเพียง 40 คน และเป็นผู้เสียชีวิตที่อยู่ในโรงพยาบาลอยู่แล้ว ซึ่ง 14 คน เป็นผู้เสียชีวิตจากการรักษาพยาบาล ไม่ใช่จากสถานการณ์น้ำท่วม
ทางด้านกระทรวงสาธารณสุข รายงานจำนวนผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ครั้งนี้ ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดนครศรีธรรมราช, พัทลุง, สงขลา, ตรัง, สตูล, ปัตตานี และยะลา มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 33 คน คือ นครศรีธรรมราช 9 ราย, พัทลุง 4 ราย, สงขลา 6 ราย, ตรัง 2 ราย, สตูล 2 ราย, ปัตตานี 5 ราย และยะลา 5 ราย แบ่งสาเหตุการเสียชีวิต เช่น ถูกน้ำพัด ไฟฟ้าช็อต ดินถล่ม พลัดตกน้ำ และจมน้ำ และเมื่อช่วงเช้านี้ (26 พ.ย. 2568) ที่มีข่าวว่ามีเฮลิคอปเตอร์ตกใกล้โรงพยาบาลขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง มีการตรวจสอบข้อมูลแล้วไม่มีเหตุการณ์ ฮ.ตกแต่อย่างใด
ทางศูนย์มีการรวบรวมข้อมูลผ่านระบบ AI เป็นที่เรียบร้อยแล้วและได้ส่งข้อมูลให้กับ ปภ.ส่วนหน้า แล้วจะมีการอัพเดทให้ทางศป.กฉ.ส่วนหน้าเป็นรายชั่วโมง
ทั้งนี้ ได้มีการเปิด “ศูนย์ธารน้ำใจช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ 2568” ณ พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศดอนเมือง เพื่ออำนวยความสะดวกในทุกมิติ ประชาชนที่อยู่ในกรุงเทพสามารถเดินทางมาบริจาคที่ศูนย์นี้ได้ ยังยินดีที่จะรับการสนับสนุนเป็นกำลัง และทรัพยากร เช่น เจ็ตสกี คนขับสปีดโบ๊ท รถลากจุง รถยกสูง และ อุปกรณ์กู้ภัย สิ่งของที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ทางศูนย์ จะมีเครื่องบิน C130 ส่งให้ทุกวัน วันละ 5 รอบ
นอกจากนี้ วันนี้ยังได้มีการเริ่มลงทะเบียนในแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” สำหรับอาสาสมัคร โดยที่รัฐจะสนับสนุนค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าที่พัก และค่าน้ำมัน ในการเติมยานพาหนะ หากท่านใดประสงค์ที่จะให้รัฐสนับสนุนในส่วนนี้ขอให้ได้เริ่มลงทะเบียนได้เลย ส่วนอาสาสมัครที่ได้ลงพื้นที่ไปก่อนหน้านี้ รัฐบาลจะลงทะเบียนย้อนหลังให้เพื่อเป็นการสนับสนุน การดำเนินการ
โฆษกศูนย์ปฏิบัติการ ศป.กฉ. ยังระบุว่า วันนี้นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปยังอำเภอหาดใหญ่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย พร้อมข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นและเจ็ตสกีอีกประมาณ 10 ลำ
เดอะสแตนดาร์ด สิริพงศ์ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการ ศป.กฉ. ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี โดยผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีอยู่ทำเนียบรัฐบาล และบริหารสถานการณ์อยู่ที่นี่จะดีกว่าหรือไม่ สิริพงศ์ กล่าวว่า พื้นที่ตรงนี้มีภราดร เป็น ผอ.ศูนย์ฯ ในการบูรณาการข้อมูลต่างๆ โดยยืนยันว่า การลงไปในพื้นที่ไม่ได้เป็นภาระ ไม่มีการแจ้งให้หน่วยงานใดรับ และไม่มีแม้แต่การให้นักข่าวติดตามไป เป็นการไปแบบคณะเล็ก ที่ต้องการดูถึงข้อจำกัด และอุปสรรคในการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ทางศูนย์ปฏิบัติการ ศป.กฉ. มีการประเมินหรือไม่ว่าน้ำจะลดลงภายในกี่วัน สิริพงศ์ กล่าวว่า จากการคาดการณ์ของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้ภายใน 5 วันจะดีขึ้น และคลี่คลายไปได้มากแต่จะมีบางจุด ที่เป็นแอ่งลึกหรือพื้นที่ต่ำ น้ำอาจจะยังลงได้ไม่หมด
สิริพงศ์ยังกล่าวถึงสัญญาณในพื้นที่ขาดหายทำให้ไม่สามารถติดต่อผู้ประสบเหตุได้ ว่า กสทช. ได้มารายงานให้ทราบแล้วว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปเติมเชื้อเพลิงให้กับเครื่องปั่นไฟได้ แต่ตอนนี้สามารถดำเนินการได้แล้ว ซึ่งวันนี้เรามีเรือเต็มที่ก็ไม่เกิน 200 ลำ และมีรถเข้าพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าได้ทุกพื้นที่ รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์อีก 20 ลำ
ดังนั้นการไปอพยพชาวบ้านออกมาทันที ยังไม่สามารถทำได้ แต่การบริหารได้หากเป็นกลุ่มสีแดง ต้องย้ายออกมาให้เร็วที่สุด เพื่อรักษาชีวิต หากเป็นกลุ่มสีเหลืองต้องส่งน้ำและอาหาร หากระดับน้ำลดลงมากกว่านี้และสามารถจัดส่งอุปกรณ์เข้าไปได้จะจัดส่งเข้าไปให้เร็วที่สุด
เมื่อถามว่า ในการช่วยเหลือที่ล่าช้าเป็นเพราะการบริหารจัดการของรัฐที่ล้มเหลวหรือไม่ สิริพงศ์กล่าวว่า เรามีการทั้งแบบออนกราวด์ และออนไลน์ รัฐบาลยังยืนยันว่า ในระดับออนกราวด์มีการแบ่งเขตรับผิดชอบทั้งตำบล และอำเภอในการอพยพผู้คน เพราะอย่างบางจังหวัดที่มีการแจ้งเตือนให้อพยพ แต่ประชาชนกลับไม่อพยพ ซึ่งการอพยพมาที่ศูนย์อพยพ ยังมีคนตกหล่นอยู่ แต่ยังยืนยันว่าจะตามช่วยเหลือให้ครบทุกคน
ส่วนกรณีที่โรงพยาบาลขาดน้ำมันซึ่งเป็นเชื้อเพลิงในการปั่นไฟนั้น เมื่อวานนี้ศูนย์ได้มีการประสานงานให้นำเครื่องปั่นไฟไปติดตั้งทุกโรงพยาบาล ซึ่งปัญหาที่พบเพียงอย่างเดียวคือเวลาในการส่งอาหารที่ล่าช้าเกินไป ควรจะส่งตั้งแต่เวลา 18.00 น. แต่อาหารไปถึงในเวลา 20.00 น. ซึ่งตอนนี้ผู้ป่วยหนักและผู้ป่วยวิกฤตได้อพยพออกไปหมดแล้ว เหลือเพียงผู้ป่วยที่สามารถดูแลได้ตามสถานการณ์
* ข่าว
* การเมือง
* คุณภาพชีวิต
* น้ำท่วมภาคใต้
* น้ำท่วม
* สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ
* ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย